หมู่มวลผีเสื้อบินวนอวดโฉมล้อสายลมอ่อน ฝูงนกสยายปีกบนฟากฟ้า เหล่าไม้ยืนต้น ไม้ใบ รวมถึงไม้ดอกล้วนเบ่งบานคลอเคล้าแสงอาทิตย์
ความสวยงามหมดจดที่ธรรมชาติเป็นผู้สร้าง กลายเป็นแรงบันดาลใจของชุดภาพถ่ายที่มีมนุษย์และธรรมชาติร่วมกันเปล่งประกายสื่อความหมายอย่างเป็นหนึ่งเดียว
‘Fares Micue’ คือช่างภาพชาวสเปนผู้กดชัตเตอร์มาแล้วกว่า 10 ปี ด้วยจุดเริ่มต้นที่ว่า อยากมีภาพดี ๆ ไว้ใช้ตั้งภาพโปรไฟล์ในโลกโซเชียล แต่เมื่อเวลาพ้นผ่านไป 6 ปี ใครจะคิด หรือแม้แต่ตัวเธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่า ความคิด อารมณ์ และการรับรู้ที่เป็นเธอนั้นถูกถ่ายทอดลงในภาพถ่ายทุกใบ นั่นจึงเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ ที่ทำให้เธอจริงจังกับการถ่ายภาพมากขึ้น
Micue เริ่มถ่ายภาพพอร์ทเทรตตัวเองและคนอื่น ๆ อย่างมีความคิดมากขึ้น ทุกครั้งที่ถ่ายเธอจะเฝ้าสังเกตสิ่งรอบตัวของผู้เป็นแบบ และเลือกใช้องค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งวัตถุ สี ไปจนถึงแสงและเงาที่สื่อความหมายกับคอนเซ็ปต์ที่ตั้งไว้ได้อย่างงดงาม
เช่นเดียวกันกับชุดภาพถ่ายครั้งนี้ ที่เริ่มต้นจากการที่ Micue ติดอยู่ในวังวนความคิดของตัวเองช่วงกักตัวจากโคโรนาไวรัส จนไม่สามารถออกไปถ่ายภาพอย่างที่ใจปรารถนาได้ เธอจึงทบทวนสิ่งที่รู้สึก และค้นหาอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ส่วนลึก จนเกิดเป็นชุดภาพถ่ายพอร์ทเทรตที่หลอมรวมมนุษย์และความสวยงามของธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อสะท้อนตัวตนซึ่งกันและกัน และมอบพลังแห่งการใช้ชีวิต
“ฉันเชื่ออยู่เสมอว่า แนวคิดและความรู้สึกที่เรามีต่อการใช้ชีวิต คือสิ่งที่จะกำหนดความเป็นจริงของเรา ดังนั้นมนุษย์เราต้องฝึกสมองให้หมั่นมองหาด้านที่ดีและค้นหาความหวังในวันที่เปล่าเปลี่ยว”
การถ่ายภาพครั้งนี้ Micue ใช้ตัวเองเป็นแบบถ่ายร่วมกับองค์ประกอบซึ่งได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติต่าง ๆ โดยเธอจัดวางได้เข้ากันอย่างสวยงามและสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเป็นใบไม้สีน้ำเงินที่ถูกเรียงร้อยคล้ายผ้าผืนใหญ่ซึ่งใช้ปกคลุมครึ่งหนึ่งของใบหน้าและร่างกายท่อนบน ซึ่ง Micue เขียนบรรยายภาพนี้ว่า เป็นภาพที่สะท้อนถึงความทรงจำในวันฝนพรำ ที่เรื่องราวครั้งจบความสัมพันธ์กับใครคนหนึ่งย้อนคืนมา แต่เพราะเสียงฝนที่หล่นกระทบหน้าต่างทำให้ตระหนักรู้ว่า ตัวเรามีความสำคัญมากกว่าสิ่งใด ดังนั้นถึงเวลาเลิกจมอยู่กับความเสียใจ เพื่อหันมารักตัวเอง และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับคนที่เรารักและรักเรา
บางภาพคือภาพเปลือยของตัวเธอถูกห้อมล้อมด้วบใบไม้สีนำเงินที่มีรูปร่างเรียวแหลม เพื่อตั้งใจสื่อความหมายว่า มนุษย์ควรเรียนรู้ที่จะสังเกต ฟัง คิด และวิเคราะห์ เพื่อเติบโตอย่างชาญฉลาด
ไม่เพียงเท่านั้น Micue ยังใช้สิ่งมีชีวิตที่แสนสวยงามอย่างผีเสื้อสื่อความหมายถึงการที่มนุษย์คนหนึ่งจะเป็นอย่างไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ หากสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ทำให้ไม่มีความสุข ก็แค่ปล่อยทิ้งมันไป แล้วเริ่มต้นใหม่อย่างสวยงามได้เสมอ
“ฉันอยากให้ทุกคนรู้สึกมีพลัง และรับรู้ถึงพลังที่ซ่อนอยู่ในทุกประสบการณ์ของช่วงชีวิต และใช้สิ่งนั้นเพื่อเรียนรู้และเติบโต”
หวังว่าภาพถ่ายชุดนี้ที่เราหยิบยกขึ้นมาให้สัมผัสด้วยสองตา และได้รับรู้ถึงความหมายที่แฝงอยู่ จะกลายเป็นพลังบวกซึ่งส่งต่อไปยังทุกคนที่อ่านให้มีกำลังใจในการชีวิตต่อไปเหมือนอย่างที่เรารู้สึกเช่นกัน
อ้างอิง
https://www.saatchiart.com/account/artworks/1076175
https://www.thisiscolossal.com/2020/08/fares-micue-self-portraits/