ทำไมผู้หญิงจึงถูกเปรียบกับกระดังงาลนไฟ?

    เพราะผู้หญิงถูกเปรียบดั่งดอกไม้มาแต่กาลก่อน เราจึงพบเห็นสำนวนหรือคำเปรียบเปรยมากมายใช้อธิบายคุณลักษณะของสตรีเพศ ตั้งแต่สาวน้อยแรกรุ่น หญิงสาวสะพรั่ง ไปจนกระทั่งสาวใหญ่ที่พราวเสน่ห์ โดยหากผ่านการใช้ชีวิตแต่งงานมาแล้วนั้น มีหนึ่งสำนวนที่เราคุ้นเคยกันกับการนิยามหญิงเหล่านั้นว่า ‘กระดังงาลนไฟ’

    กระดังงาถือเป็นไม้ดอกโบราณที่มีกลิ่นหอมแรงและหอมไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามเย็นค่ำและเช้าตรู่กระดังงาจึงเป็นพันธุ์ไม้คู่บ้านคนไทยมาเนิ่นนาน เพราะให้ทั้งความร่มรื่นและเต็มไปด้วยสรรพคุณทางยาที่ติดมากับเกือบทุกส่วนของต้นบรรพบุรุษชาวไทยของเรานำกลิ่นกระดังงามาใช้ประโยชน์ในครัวเรือนตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งแต่นำดอกกระดังงามาทอดในน้ำมันมะพร้าวแล้วนำมาใช้ชโลมผม อบร่ำเสื้อผ้า หรือผสมกับดอกไม้หอมอีกหลายชนิดแล้วทำเป็นเครื่องหอมอย่างบุหงารำ รวมถึงนำกระดังงามาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการทำเครื่องหวานนานาชนิด ไม่ว่าจะเติมเต็มความหอมในน้ำเชื่อมให้ชื่นใจ หรือเพิ่มความอบอวลในขนมซึ่งต้องใช้กรรมวิธีอบควันเทียนร่วมด้วย

    ก่อนจะนำกระดังงามาใช้งาน จะมีการนำดอกที่แก่จัดมาลนเปลวเทียนจนร้อนให้กลีบดอกช้ำ แล้วใช้มือบีบเบาๆ เพื่อให้ต่อมน้ำหอมที่อยู่ด้านในของกระเปาะดอกแตกออก เป็นเคล็ดลับทำให้ดอกกระดังงากระจายกลิ่นหอมตลบอบอวลขึ้นกว่าเดิม จากนั้นจึงนำไปวางบนขนมที่ต้องการอบ เพื่อให้กลิ่นหอมของควันเทียนและดอกกระดังงาแทรกซึมไปในทุกคำที่เคี้ยวกลืน หรือจะนำไปลอยในน้ำที่ตักเตรียมไว้หนึ่งคืน ก่อนช้อนดอกออกแล้วนำน้ำไปทำน้ำเชื่อมหรือคั้นกะทิต่อไป ก็จะทำให้กลิ่นหอมตรึงใจของกระดังงาอวลกรุ่นอยู่ในความหวานทุกคำที่ชิม

    นี่คงเป็นที่มาของการเปรียบเปรยสตรีกับดอกกระดังงา ว่ายามแรกแย้มผลิบานจะส่งกลิ่นหอมเพียงกรุ่นๆ พอชื่นใจ แต่เมื่อใดที่ดอกกระดังงานั้นผ่านความบอบช้ำและไอร้อนของเปลวไฟ ก็จะยิ่งกระตุ้นให้ส่งกลิ่นหอมยวนใจออกไปไกลมากกว่าเดิม เหมือนหญิงสาวแรกรุ่นที่ยังด้อยประสบการณ์ มีความอ่อนหวานเอียงอายในวัยสาว ต่างจากหญิงสาวเต็มวัยผู้ผ่านประสบการณ์ในด้านชีวิตคู่มาแล้ว อันเป็นเสน่ห์ยั่วยวนอีกแบบให้ผู้คนหลงใหล ว่ากันว่ากลิ่นหอมของกระดังงาจะทำให้รู้สึกสงบและผ่อนคลาย แต่ก็มีส่วนกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกทางเพศ

    ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ว่ากลิ่นกระดังงายามเช้าหรือกระดังงาซึ่งผ่านการลนไฟ ความหอมรูปแบบไหนที่จะมัดใจคุณ