Skip to content

Floral Inspiration Edutainment

RakDok (รักดอก)

กล้วยไม้แวนด้า


“The orchid is mother nature's masterpiece.” กล้วยไม้คือชิ้นงานมาสเตอร์พีซที่ถือกำเนิดขึ้นโดยฝีมือธรรมชาติ - Robyn

Meaning

Elegance and power
‘‌หรูหรา สง่างาม แข็งแกร่ง และเปี่ยมด้วยรสนิยม’‌

    กล้วยไม้ได้รับการยกย่องให้เป็นตัวแทนของความหรูหรามีระดับและความแข็งแกร่งมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ ในยุคปัจจุบัน กล้วยไม้เป็นตัวแทนสื่อถึงความรัก ความงดงาม ความประณีต ความมีเสน่ห์ ความอาทร ไปจนถึงการสืบพันธุ์ กล้วยไม้แวนด้ามีความโดดเด่นตรงที่เป็นกล้วยไม้ซึ่งเจริญเติบโตทางยอด ไม่แตกกอ มีดอกค่อนข้างใหญ่ ให้สีสันสดใสงดงาม ฟอร์มดอกเป็นวงกลม กลีบค่อนข้างแข็งและทนทาน จึงเป็นหนึ่งในไม้ตัดดอกยอดนิยมที่มีราคาสูง และมักถูกนำมาจัดเป็นช่อหรือปักแจกัน 

กล้วยไม้แวนด้าได้ชื่อว่าเป็นสายพันธุ์กล้วยไม้ซึ่งมีสีสันหลากหลาย และแต่ละสีนั้นมีความหมายไม่ซ้ำกัน

กล้วยไม้สีเหลือง เป็นตัวแทนของมิตรภาพและความปรารถนาดีที่มีให้แก่กัน

กล้วยไม้สีเขียว มักถูกใช้สื่อถึงสุขภาพที่แข็งแรง อายุที่ยืนยาว และความเจริญรุ่งเรือง

กล้วยไม้สีชมพู เป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความเป็นผู้หญิง ความสง่างาม และความสุข

กล้วยไม้สีม่วง หมายความถึงสง่าราศรี ความมั่งคั่ง ความภักดี และความชื่นชม

กล้วยไม้สีขาว สื่อแทนความสมบูรณ์แบบ ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ความงดงาม และความเคารพ

กล้วยไม้สีส้ม ให้ความรู้สึกสดใส ทั้งยังหมายรวมถึงการยืนหยัดหนักแน่น ความกล้าหาญ และความแข็งแกร่ง

กล้วยไม้สีแดง เป็นตัวแทนของความปรารถนา ความแข็งแกร่งและเก่งกล้า

กล้วยไม้สีฟ้า ถือเป็นสีที่หายากและมีความพิเศษ นอกจากกล้วยไม้แวนด้า Blue lady orchid และ Aganisia cyanea แล้ว กล้วยไม้สีฟ้าส่วนใหญ่มักเกิดจากการย้อมสี กล้วยไม้สีนี้จึงเป็นตัวแทนของความพิเศษไม่เหมือนใคร

Vandas and other stories
เรื่องอยากบอกของ ‘ดอกกล้วยไม้แวนด้า’

    กล้วยไม้แวนด้าสายพันธุ์ Miss Joaquim ‘Agnes’ ได้รับคัดเลือกเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศสิงคโปร์ ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1981 สิงคโปร์เป็นเพียงประเทศเดียวที่เลือกใช้ดอกไม้สายพันธุ์ผสมมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ โดยแฝงความหมายถึงการผสมผสานและความหลากหลายทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของสิงคโปร์ โดยกล้วยไม้สายพันธุ์นี้มีสีม่วงแกมขาวหรือสีชมพูระเรื่อ ซึ่งให้ความสดใสมีชีวิตชีวา และยังมีความแข็งแรงทนทาน รวมถึงยังมีดอกผลิบานให้ได้ชมกันตลอดทั้งปี สื่อถึงความเจริญงอกงาม ความก้าวหน้า และความยั่งยืนของประเทศสิงคโปร์

History

    ชื่อ Vanda มีรากศัพท์มาจากคำในภาษาสันสกฤต ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งของอินเดียที่มักเกาะอยู่บนต้นไม้ใหญ่กล้วยไม้แวนด้าได้รับการแต่งตั้งเป็นสกุลหนึ่งของดอกกล้วยไม้ในปี ค.ศ. 1795 เป็นดอกไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบอินโดจีนอย่างไทย เมียนมาร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ไปจนถึงศรีลังกา อินเดีย ตอนเหนือของทวีปออสเตรเลีย เกาะนิวกินี และบางส่วนของเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ทวีปเอเชียนับเป็นแหล่งใหญ่ของกล้วยไม้แวนด้า เพราะเป็นแหล่งรวมกล้วยไม้สกุลนี้ตามธรรมชาติมากกว่า 40 สายพันธุ์ (แวนด้าพบตามธรรมชาติได้ประมาณ 50 สายพันธุ์) มักพบกล้วยไม้แวนด้าตามแหล่งธรรมชาติที่มีสภาพอากาศชื้น และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,700 ฟุตขึ้นไป กล้วยไม้แวนด้าที่มีชื่อเสียงที่สุดของไทยได้แก่พันธุ์ ‘ฟ้ามุ่ย’ ซึ่งมีสีม่วงอมน้ำเงิน และได้รับการยอมรับว่าเป็นกล้วยไม้ที่มีความงดงามที่สุดสายพันธุ์หนึ่งของโลก และอยู่ในสถานะที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เป็นอย่างยิ่ง

Culture

    เพราะความเชื่อว่ากล้วยไม้เป็นตัวแทนความอุดมสมบูรณ์ ชาวจีนจึงมักมอบดอกกล้วยไม้ให้กับคู่สมรสที่กำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ นอกจากจะเป็นการอวยพรให้มีทายาทสืบสกุลต่อไปแล้ว ยังเชื่อกันว่ากล้วยไม้เป็นตัวแทนของความสามัคคีและจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปได้ กล้วยไม้จึงนับเป็นหนึ่งในไม้ประดับมงคลซึ่งนิยมปลูกไว้ในบ้านเรือนหรืออาคารสำนักงาน ในยุควิคตอเรียนของอังกฤษ กล้วยไม้เป็นของกำนัลซึ่งแสดงถึงความรักที่ฝ่ายชายมีให้กับหญิงสาวที่ตนพึงใจ หากดอกกล้วยไม้ที่มอบให้เป็นสายพันธุ์ที่หายากมากขึ้นเท่าไหร่ ก็แปลว่าชายหนุ่มยิ่งมีความบริสุทธิ์ใจ และมีความรักอันลึกซึ้งต่อหญิงสาวมากขึ้นไปตามความหายากของกล้วยไม้พันธุ์นั้นๆ ในช่วงศตวรรษที่ 18 - 19 ในยุโรป กล้วยไม้เป็นส่วนผสมหลักของยาบำรุงสมรรถภาพทางเพศ ส่วนในยุคโบราณของประเทศญี่ปุ่น กล้วยไม้เป็นสื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งรุ่งเรือง นับเป็นสมบัติล้ำค่าจนถึงกับต้องนำกล้วยไม้ที่หายากไปซ่อนไว้ตามวัดต่างๆ เพื่อป้องกันการสูญหาย และบางครั้งกล้วยไม้ยังถูกใช้เป็นของสำหรับบูชาเทพเจ้าด้วย

Basic Facts

Scientific Name: Vanda spp.
Family: Orchidaceae
Colors: เหลือง, เขียว, ชมพู, ม่วง, ขาว, แดง , ส้ม, ฟ้า (อาจมีมากกว่าหนึ่งสีในดอกเดียว)
Seasons: สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี
Length of time to grow: เริ่มให้ดอกหลังจากอายุ 2 - 3 ปี (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์) ปลูกได้ด้วยการแยกหน่อ ตัดยอด หรือเพาะเนื้อเยื่อ

Reference