กุหลาบมอญ
Meaning
The beauty of fragrance
สวยทั้งรูป ยิ่งจูบยิ่งหอม
Damask rose หรือกุหลาบมอญ มีอีกชื่อภาษาไทยที่มักได้ยินในงานวรรณคดีว่า ยี่สุ่น สตรีใดอนงค์งามพิลาสล้ำอาจสวยแต่รูปจูบไม่หอม ทว่าดอกไม้สีสดกลีบซ้อนหนาสายพันธุ์นี้กลับงามทั้งรูป ไม่ต้องจูบพิสูจน์ทั่วโลกก็รู้ถึงกิตติศัพท์ความหอมที่นำไปกลั่นเป็นน้ำมันดอกกุหลาบสำหรับเครื่องหอม คนโบราณมีบ้างที่ตั้งชื่อบุตรสาวว่ายี่สุ่น กวีเอกแห่งแผ่นดินอย่างสุนทรภู่เองก็เคยกล่าวถึงไม้ดอกชนิดนี้ไว้ในผลงานถึงสองเรื่องคือ “สารภียี่สุ่นพิกุลเกด กระถินเทศกระทุ่มดอกออกไสว” ในพระอภัยมณี และ “ยี่สุ่นแซมแกมกับชมพู่เทศ การะเกดชุมแสงทั้งสร้อยสน” จากพระลักษณวงศ์
But no such roses see I in her cheeks
แก้มกานดาใช่ว่าเรื่อดังกุหลาบ
ในบทกวี Sonnet 130 อันโด่งดังของ William Shakespeare ที่เขียนถึงหญิงผู้เป็นที่รัก ผ่านกลวิธีพรรณนาเปรียบเทียบว่าหญิงสาวไม่ยักจะงามเหมือนความงามที่กวีมักใช้เปรียบเปรย ดังเช่นท่อนหนึ่งที่กล่าวว่า “I have seen roses damasked, red and white, But no such roses see I in her cheeks;” (ข้าเคยยลกุหลาบงามทั้งแดงขาว ชมพูพราวมิปรากฏบนปรางแก้ม) หรือกล่าวอีกแบบก็คือ กวีเคยเห็นทั้งกุหลาบมอญ กุหลาบขาวและกุหลาบแดง แต่สีของกุหลาบเหล่านั้นก็ไม่เห็นเหมือนสีบนแก้มหญิงผู้เป็นที่รัก เพราะการเปรียบเปรยเหล่านั้นล้วนเป็นเท็จ (โดยปกติเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะมีดวงตาเหมือนดวงตะวัน มีผิวขาวเหมือนหิมะ หรือแก้มแดงดังกุหลาบ) แต่เธอนั้นคือความจริง
History
ผู้คนเคยเชื่อว่ากุหลาบมอญมีถิ่นกำเนิดจากแถบตะวันออกกลาง ทว่าหลังจากมีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในภายหลังก็พบว่า ไม้ดอกสายพันธุ์นี้เป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ของพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียกลาง ข้อเท็จจริงนี้น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นเมื่อพบว่าชื่อ ‘Damask rose’ นั้นมีที่มาจากกรุง Damascus เมืองหลวงของประเทศซีเรีย ก่อนที่จะแพร่เข้าสู่ยุโรปในยุคสงครามครูเสดครั้งที่สอง ส่วนที่มาของชื่อ ‘กุหลาบมอญ’ นั้นว่ากันว่าเมื่อครั้งสมเด็จพระนเศวรมหาราชทรงยกทัพไปตีมอญ ทวาย และตะนาวศรี นอกจากกวาดต้อนเอาทรัพย์สมบัติ และผู้คนกลับคืนสู่อยุธยาฯ แล้ว หนึ่งในสิ่งที่ทรงนำกลับมาด้วยคือพันธุ์ไม้ดอกหอมชนิดหนึ่ง นับแต่นั้นพันธุ์ไม้นั้นจึงได้ชื่อว่า กุหลาบมอญ
Culture
ในวัฒนธรรมไม่ว่าจะฝั่งตะวันตกหรือตะวันออก กุหลาบมอญได้รับการยกย่องให้เป็นราชินีแห่งกลิ่นหอม เนื่องจากคุณสมบัติของตัวดอกที่มีกลิ่นหอมแรงจนผู้คนโดยเฉพาะในแถบซีเรีย ตุรกี บัลแกเรีย นำไปใช้สกัดเป็นน้ำมันดอกกุหลาบ ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญในการผลิตน้ำหอมแบรนด์ดังระดับโลก ให้กลิ่นหอมหวาน อบอวลอยู่บนผิวกายยาวนานยิ่งกว่าดอกไม้ชนิดใด บางส่วนยังถูกนำไปสกัดเป็น Rose Water และ Rose Concrete ซึ่งเป็นวัตถุดิบชั้นหนึ่งสำหรับผลิตเครื่องสำอางและครีมบำรุงที่ช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูผิว กุหลาบมอญยังคงมีความผูกพันกับวิถีชีวิตของผู้คนพื้นถิ่นในอีกหลายแง่ พวกเขาใช้ความงามของดอกประดับประดาร่างกายในเทศกาลสำคัญ ใช้กลีบดอกประกอบอาหาร ชงเป็นชา ทั้งยังมีประโยชน์ในแง่สมุนไพรอายุรเวชอีกด้วย
Anecdote
Ras el hanout คือผงเครื่องเทศที่ได้รับความนิยมในแถบตูนิเซีย อัลจีเรีย และโมร็อคโค เป็นการผสมผสานเครื่องเทศหลายชนิดเข้าด้วยกัน สามารถใช้เป็นเครื่องปรุงตั้งต้นในการทำอาหารที่หลากหลายเช่นเดียวกับ Masala ของอินเดีย ส่วนผสมมีตั้งแต่ กระวาน, ยี่หร่า, กานพลู, อบเชย, ลูกจันทน์เทศ และดอกกุหลาบมอญอบแห้ง
Basic Facts
Reference
https://transasianews.com/open-article/2018/lifestyle/damask-rose-queen-flowers-syrias-ambassador-world-2656
https://www.sana.sy/en/?p=71332
https://www.poetryfoundation.org/poems/45108/sonnet-130-my-mistress-eyes-are-nothing-like-the-sun
https://www.silpa-mag.com/history/article_6458
http://chotirosk.blogspot.com/2015/06/rose-of-bulgaria.html
https://medthai.com/กุหลาบมอญ/