ดอกกระดาษ อ่านชื่อแล้วนึกสงสัยว่าเป็นดอกไม้ปลอมหรือเปล่า ? คำตอบคือไม่ใช่แต่อย่างใด เพราะดอกกระดาษ หรืออีกชื่อที่เรียกว่า ‘ดอกบานไม่รู้โรยฝรั่ง’ (Helichrysum bracteatum) คือดอกไม้สีสันสดใสซึ่งมีถิ่นกำเนิดที่ประเทศออสเตรเลีย ตัวกลีบดอกค่อนข้างแห้ง และแข็ง จับแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกระดาษ จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกซึ่งหลายคนคุ้นหูกันนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นดอกที่มีหลากสี เช่น ชมพู ขาว เหลือง แดงที่จะกอดตัวกันเป็นช่อสุดน่ารัก
ชวนทุกคนชมบรรยากาศ ‘ทุ่งดอกกระดาษ’ ที่โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเราได้ไปสัมผัสความสดใสกับตาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อที่ว่าคลายล็อคดาวน์เมื่อไหร่ เราจะได้เตรียมตัวขึ้นภูหินร่องกล้า ออกตามหาดอกกระดาษกัน
ปกติแล้วดอกกระดาษที่ภูหินร่องกล้าจะเบ่งบานช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม ซึ่งส่วนใหญ่คนมักจะขึ้นไปช่วงปลายปีที่อากาศเย็น เพราะฉะนั้นการเตรียมตัวให้พร้อม คือพกเสื้อกันหนาว รองเท้าผ้าใบ กล้องถ่ายรูป และหากมีหมวกสักใบก็ดีทีเดียว
พร้อมแล้วก็เดินเท้าออกกำลังกายกันเสียหน่อย เพราะทุ่งดอกกระดาษแข่งกันอวดโฉมอยู่ที่ริมผาใหญ่ ซึ่งห่างจากพื้นที่อุทยาน ฯ ไปประมาณกิโล ฯ นิด ๆ ระยะทางอาจดูไกลสำหรับบางคน แต่ระหว่างทางมีธรรมชาติแสนร่มรื่นให้เราเพลิดเพลินจนลืมเหนื่อย และไม่กี่อึดใจจากที่เดินขึ้นเขามา เราก็ได้พบกับทุ่งดอกกระดาษหลากหลายสีสันที่ไหวเอนตามแรงลม
โดยภายในพื้นที่ของทุ่ง จะมีหลวดหนามกั้นเว้นเป็นช่องให้นักท่องเที่ยวยืนถ่ายภาพอย่างใกล้ชิด และด้านหน้าทุ่งยังมีโต๊ะไม้ตัวใหญ่ให้เราเดินขึ้นบันไดไปยืนถ่ายรูปมุมกว้างกับดอกกระดาษเต็มทุ่ง
ระหว่างที่หลายคนต่อคิวถ่ายรูป เราเลือกเดินชื่นชมความงามของดอกกระดาษใกล้ ๆ สังเกตตัวกลีบ เกสร ก้าน ใบ ต้น ลูบไล้ผ่านสายตาอย่างไม่เอามือไปสัมผัส เพราะกลัวว่าพวกเขาจะโรยราหากเราแตะต้องแรงเกินไป
และเมื่อเฝ้าสังเกต ก็ได้พบกับห้วงชีวิตของธรรมชาติที่เราไม่ได้มองใกล้ ๆ ขนาดนี้มานานแล้ว เจ้าผึ้งตัวใหญ่กำลังดอมดมเกสรของดอกกระดาษสีขาว เดินเรื่อยไปอีกนิดก็เจอผึ้งอีกตัวกำลังหยอกเหย้าดอกกระดาษสีชมพู มันคงกำลังทำให้ละอองเกสรฟุ้ง ดอกกระดาษจะได้เติบโตขึ้นใหม่ให้เต็มทุ่ง เราเดินลัดเลาะต่อไปยังริมผาด้านล่าง ทางคดเคี้ยวเต็มไปด้วยหินแข็งแกร่ง แต่กลับดูมีชีวิตชีวาด้วยสีสันของดอกกระดาษที่ขึ้นเรียงรายไปตามหิน เป็นภาพที่แตกต่างแต่ลงตัว ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์จนเรามองอย่างสบายตา
หลังจากเดินตามทางของหน้าผาด้านล่าง เราปีนผาที่ไม่สูงเท่าไหร่ขึ้นกลับมาด้านบนอีกครั้ง (จริง ๆ มีทางง่ายให้เดินขึ้น แต่คนชอบลุยอย่างเราขอปีนปายหน่อยแล้วกัน ฮ่า ๆ) แล้วเดินไปยังสวนกาแฟสายพันธุ์อาราบิกก้า ที่ปลูกด้วยวิธีออร์แกนิก ต่อด้วยแวะถ่ายรูปชิค ๆ กับลานต้นสนสูงใหญ่ นอกจากนี้ที่ภูหินร่องกล้า ยังมีหน้าผาให้นักท่องเที่ยวมาตามเช็คลิสต์ ไม่ว่าจะเป็น ผารักยืนยง ผาบอกรัก ผาพบรัก ผาคู่รัก ผาสลัดรัก และผาไททานิก
เที่ยวผ่านสายตาจนอิ่มเอมแล้ว เมื่อไหร่ที่ถึงเวลาของดอกกระดาษบานสะพรั่งเต็มทุ่งบนภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลกอีกครั้ง เราอยากให้ทุกคนเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางมาสัมผัสความสวยงามสดใสของดอกกระดาษด้วยตัวเอง แล้วจะรู้ว่า การเที่ยวเพลินไปกับเหล่าธรรมชาติช่วยเติมเต็มชีวิตได้อย่างมากมาย
Siri P.