Skip to content

Floral Inspiration Edutainment

RakDok (รักดอก)

มะลิ


“I'm thankful for the sea breeze that feels so good right now, and the scent of jasmine when the sun starts going down.” ขอบคุณลมทะเลที่พัดพามาซึ่งความรู้สึกอันปลอดโปร่ง รวมถึงกลิ่นของดอกมะลิยามที่ตะวันย่ำโยงลับขอบฟ้า - Johnny Cash

Meaning

No life will always be white
ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อน พอแตกใบอ่อนเป็นมะลิลา

    สีขาวคือตัวแทนแห่งความบริสุทธิ์และสูงส่ง ในสายตาของชาวตะวันตก มะลิดอกน้อยกลิ่นหอมเย็นชื่นจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความงาม ความไร้เดียงสา ขณะที่ฝั่งตะวันออกดอกมะลิมีความเกี่ยวโยงกับศาสนา และพิธีกรรมอยู่มาก ในภาษาดอกไม้ สีขาวของดอกมะลิจึงไม่ได้แสดงถึงเพียงแค่ความสะอาดบริสุทธิ์ แต่ยังเป็นตัวแทนถึงความสูงส่ง สง่างาม และการเคารพบูชาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย ในวรรณคดี หรืองานศิลปะต่างๆ มะลิจึงมักถูกหยิบยกมากล่าวถึงแต่ในแง่ดี จะมีก็เพียงเพลงร้องเล่นของเด็กไทยสมัยโบราณที่เราคุ้นหูกันดีเพลงหนึ่งซึ่งใช้มะลิมาเปรียบเทียบในบริบทที่แตกต่างออกไป เพลงที่ร้องว่า “ลามะลิลา ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อน พอแตกใบอ่อนเป็นมะลิลา…” เปรียบเทียบคนเรา ขึ้นต้นเป็นอย่างหนึ่ง พอนานไปกลับกลายเป็นอีกอย่างหนึ่ง

Jasmine, the cupid
ศรรักดอกมะลิ 

    หากในตำนานกรีกมีคิวปิดผู้แผลงศรรักปักอกผู้มีบุพเพ ในฝั่งตำนานเทวะแห่งฮินดูก็มี ‘กามเทพ’ ผู้เป็นเทพแห่งความรักคอยชักนำโชคชะตาผู้คนให้สมภิรมย์หมายเช่นเดียวกัน ในตำราเล่าว่าองค์กามเทพทรงเป็นบุตรของพระวิษณุ มีพาหนะเป็นนกแก้ว ถือคันศรทำจากต้นอ้อย มีศรรักที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ห้าชนิดซึ่งหนึ่งในนั้นคือดอกมะลิ หากใครถูกศรรักดอกมะลิปักอกก็ยากที่จะหลุดพ้นฤทธิ์เสน่หาได้

History

    Jasmine เป็นภาษาอารบิคที่มาจากคำว่า Yasmin อันหมายถึงดอกไม้ที่รวยรสด้วยกลิ่นหอม เชื่อกันว่าดอกไม้หอมดอกน้อยนี้มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชีย นักพฤกษศาสตร์บางคนระบุว่าที่แรกที่มะลิถือกำเนิดขึ้นคือดินแดนอารยธรรมเปอร์เซีย หรือประเทศอิหร่านในปัจจุบัน ก่อนจะข้ามทะเลแดงสู่อียิปต์ช่วงราวหนึ่งพันปีก่อนคริสตกาล หลังจากนั้นความนิยมในไม้ดอกชนิดนี้จึงเผยแพร่ไปทั่วโลก ทั้งตุรกี จีน เนปาล จนถึงยุโรปตะวันตก มีบันทึกว่าในช่วงศตวรรษ 1700 มะลิเดินทางจากเอเชียกลางสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มะลิลาจึงกลายเป็นดอกไม้ประจำชาติของฟิลิปปินส์นับแต่นั้นมา

Culture

    ในแต่ละอารยธรรมทั่วโลก ดอกมะลิมีความหมายในบริบทของแต่ละวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ชาวคริสต์ยกย่องให้มะลิคือสัญลักษณ์แห่งความเป็นมารดา เนื่องจากดอกไม้ชนิดนี้มักจะบานในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งสำหรับชาวคาทอลิคแล้วนี่คือเดือนแห่งพระแม่มารี บังเอิญพ้องกับในประเทศไทยซึ่งกำหนดให้ดอกมะลิเป็นสัญลักษณ์ของวันแม่ เนื่องจากความหมายของดอกไม้ที่สื่อถึงรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูก สำหรับชาวฮินดีดอกมะลิถูกนำมาร้อยเป็นพวงมาลัย และประดับประดาร่วมกับดอกไม้อื่นๆ สำหรับสักการะพระผู้เป็นเจ้า ขณะที่ประเทศอื่นๆ ในเอเชียเลือกจะใช้ประโยชน์จากดอกมะลิในการสกัดกลิ่นหอมมาใช้เป็นสุคนธบำบัด ดอกที่เบ่งบานเต็มที่ถูกนำมาอบแห้งชงดื่มร่วมกับชา หรือจะนำดอกสดมาลอยน้ำฝนก็ให้กลิ่นหอมเย็นรื่นใจเช่นกัน

Anecdote

    ในวรรณคดีไทยเรื่องรามเกียรติ์มีตัวละครหนึ่งนามว่า อินทรชิต ซึ่งเป็นบุตรทศกัณฐ์กับนางมณโฑ คำบรรยายลักษณะของยักษ์ตนนี้กล่าวว่ามีกายสีเขียว มีฤทธิ์แกล้วกล้า มีหนึ่งพักตร์ สองกร ในปากมีเขี้ยวคุด ซึ่งเขี้ยวคุดนี้เรียกอีกอย่างว่าเขี้ยวดอกมะลิเนื่องจากมีลักษณะเหมือนดอกมะลิตูม

Basic Facts

Scientific Name: Jasminum officinale
Family: Oleaceae
Colors: ขาว, เหลือง
Seasons: ฤดูร้อนและใบไม้ผลิ
Length of time to grow: ในประเทศไทยคนนิยมปลูกดอกมะลิช่วงต้นฤดูฝน เพื่อให้ได้ดอกดกตามต้องการควรปลูกมะลิในพื้นที่ที่สามารถรับแสงแดดได้เต็มที่ ต้นมะลิชอบดินร่วนซุย ควรหมั่นรดน้ำวันละ 2 ครั้งแต่ไม่ควรปล่อยให้ดินแฉะจนเกินไป หากไม่ต้องการให้ถูกหนอนแมลงกินดอกใบอาจใช้ตาข่ายคลุมแปลงได้ในช่วงเวลากลางคืน

Reference