เติมเครือไม้ให้ปลิวไสว เร้าใจในอุทยาน
ชมผกา จำปา จำปี กุหลาบ ราตรี พะยอม อังกาบ ทั้งกรรณิการ์
ลำดวน นมแมว ซ่อนกลิ่น ยี่โถ ชงโค มณฑา สายหยุด เฟื่องฟ้า ชบา และสร้อยทอง
บานบุรี ยี่สุ่น ขจร ประดู่ พุดซ้อน พลับพลึง หงอนไก่ พิกุลควรปอง
งามทานตะวัน รักเร่ กาหลง ประยงค์ พวงทอง บานชื่นสุขสอง พุทธชาติสะอาดแซม
พิศพวงชมพู กระดังงาเลื้อยเคียงคู่ ดูสดสวยแฉล้ม รสสุคนธ์ บุญนาค นางแย้ม สารภีที่ถูกใจ
งามอุบล ปนจันทร์กะพ้อ ผีเสื้อแตกกอ พร้อมเล็บมือนาง พุดตาน กล้วยไม้
ดาวเรือง อัญชัน ยี่หุบ มะลิวัลย์แลวิไล ชูช่อไสว เร้าใจในอุทยาน
“ชมผกา จำปา จำปี” เพียงประโยคขึ้นต้นดังแว่วมา เชื่อแน่ว่าเหล่าแฟนเพลงลูกกรุงคงร้องต่อได้จนจบ เพลงแสนน่ารักและแสนมหัศจรรย์เพราะรวมเหล่ามวลดอกไม้ไว้มากถึง 49 สายพันธุ์ ไม่ว่าเราจะให้คุณค่าในฐานะประดิษฐกรรมสร้างความบันเทิง หรือสารานุกรมดอกไม้ขนาดย่อม เพลงอุทยานดอกไม้ก็ช่วยให้ชื่อของมวลบุปผชาติเหล่านี้ยังคงวนเวียนอยู่ในความทรงจำ แม้จะเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ตาม
ความน่าสนใจของดอกไม้ทั้ง 49 สายพันธุ์ คือเหล่าตระกูลไม้เลื้อยทั้ง 8 ชนิดซึ่งมีทั้งที่คุ้นเคย และแปลกหูสำหรับคนรุ่นใหม่ อาจพูดได้ว่าการปลูกไม้เลื้อยนั้นเหมาะกับมนุษย์เร่งรีบที่ไม่ค่อยมีเวลาประคบประหงมต้นไม้ เพียงมีหน้าดินขนาดพอเหมาะ ต้องแสงอาทิตย์ และได้น้ำตามความต้องการ ไม้เลื้อยเหล่านี้ก็สามารถเจริญพันธุ์ได้ทันที ชอนไชไปตามกำแพงเพื่อปกคลุมความแข็งกร้าวของเนื้อปูนและเหล็ก ให้กลายเป็นกำแพงดอกไม้สุดน่ารัก ทำหน้าที่จรรโลงใจแก่มวลมนุษย์ผู้มาพานพบ
เอาละ ตามเสียงเพลงไปทำความรู้จักเหล่าเครือไม้เหล่านี้กันดีกว่า เผื่อคุณจะได้เพิ่มสมาชิกใหม่ในสวนอีกสักต้น
- สายหยุด
“สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้งยามสาย” อีกหนึ่งวรรคทองจากลิลิตตะเลงพ่ายที่ชื่อของดอกสายหยุด ถูกวางไว้ในใจเราตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนมัธยม คนไม่เคยเห็นสายหยุดจะแยกไม่ออกในตอนแรก เพราะลักษณะคล้ายการเวกและกระดังงา แต่ลักษณะเด่นของสายหยุดคือมีกลีบสีเหลืองเรียวยาว และบิดเป็นเกลียว ลำต้นเป็นไม้พุ่มรอเลื้อย หมายถึงสามารถยืนต้นเดี่ยวได้ แต่ถ้ากิ่งไปแปะอยู่กับวัตถุอื่น ก็พร้อมเลื้อยใส่ทันที ชื่อสายหยุดตั้งตามคุณลักษณะการให้กลิ่น เพราะดอกจะหอมตั้งแต่พลบค่ำถึงช่วงเช้า พอสายก็จะหยุดกลิ่นฟุ้งตามที่ปรากฏในลิลิตนั่นแล
- ขจร
ดอกขจร หรืออีกชื่อหนึ่งที่เรียกกันว่าดอกสลิด ดอกไม้กินได้มีรสหวาน สัมผัสกรอบ และสรรพคุณเป็นยา การปลูกดอกขจรริมรั้วจึงมีประโยชน์มากกว่าเอาไว้เชยชม ขจรเป็นไม้เลื้อยขนาดเล็กแต่ใบใหญ่ รูปทรงคล้ายใบโพธิ์ ดอกขจรก่อนบานมีสีขาวอมเขียว (ที่มักนำไปประกอบอาหารกัน) แต่เมื่อบานเต็มที่จะมีสีเหลืองเพิ่มมาดูน่ารัก ดอกขจรชอบดินร่วนและแดดจัด รดน้ำวันละครั้งก็ขยันเจริญเติบโตแล้ว
- พวงชมพู
ไม้เลื้อยสีสันจัดจ้านสู้แดดในหน้าร้อน ปัจจุบันดอกพวงชมพูมีอีกหนึ่งบทบาทที่น่าสนใจ คือประดับอยู่ในจานอาหารระดับไฟน์ไดนิ่ง ข้อดีของไม้เลื้อยชนิดนี้คือโตง่าย ออกดอกตลอดปี รักแดดในช่วงเดือนเมษายน หนึ่งกิ่งยาวได้ถึง 12 เมตร ดอกจะเป็นกลีบสีชมพูอ่อนบ้าง เข้มบ้างสลับกันไป ปลายช่อจะมีตัวเกาะเล็กๆ เอาไว้จับเพื่อเลื้อยไปอย่างมั่นคง กำแพงบ้านไหนมีพวงชมพู รับประกันว่าสวยเด่นเป็นสง่าจนเพื่อนต้องเอ่ยปากชม
- กระดังงา
แม้สำนวน ‘กระดังงาลนไฟ’ จะมีความหมายค่อนไปในทางชู้สาว แต่โดยความเชื่อของคนไทยแล้ว ดอกกระดังงามีความหมายเป็นมงคล หมายถึงให้ลูกหลานมีชื่อเสียงโด่งดังก้องไกลกังวาล ส่วนในศาสตร์การปรุงน้ำหอม กระดังงา (หรือ อิลังอิลัง) มักถูกนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย และใช้เป็นกลิ่นในเครื่องประทินผิวของหญิงสาว สำหรับการปลูก กระดังงาเป็นไม้เลื้อยทรงพุ่มฐานรากแข็งแรง ออกดอกเป็นสีเหลืองสดทรงรีปลายแหลม ขับกลิ่นหอมอ่อนๆ ในช่วงเช้าและเย็น ชอบแดด และรดน้ำสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ
- รสสุคนธ์
รสสุคนธ์ แปลว่ารสกลิ่นอันดีเป็นที่ชื่นใจ จึงนำมาตั้งชื่อดอกไม้ชนิดนี้เพราะมีคุณลักษณะตรงตามชื่อที่ว่าไว้ รสสุคนธ์เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง มักขึ้นในป่าธรรมชาติทั่วไป สามารถเจริญเติบโตได้ในที่ร่ม และทนความแล้งได้ดี เมื่อออกดอกจะบานเป็นกลีบเล็กลักษณะเป็นเส้นสีขาวคล้ายดอกกระถิน ส่งกลิ่นหอมแรงในตอนกลางคืน ออกดอกได้ปีละหลายครั้ง แต่จะชอบอากาศในช่วงปลายฝนต้นหนาวราวเดือนพฤศจิกายนเป็นที่สุด ข้อดีของรสสุคนธ์คือทนทั้งร้อนและฝน พุ่มมีลักษณะแข็งแรง ใช้ผูกป้ายหรือของประดับตกแต่งอื่นๆ ได้ดี
- เล็บมือนาง
อีกหนึ่งไม้เลื้อยซึ่งเป็นที่นิยมของคนรักต้นไม้ เพราะมีสรรพคุณโตง่ายตายยาก เล็บมือนางเป็นไม้เถาเนื้อแข็งก็จริง แต่รูปร่างดูอ่อนช้อย ดอกและใบมักจะโน้มลงมาคลอเคลียกับเจ้าของบ้าน แต่บางคนก็เอาขึ้นระแนงเพราะกิ่งเยอะใบแยะ ใช้บังแดดได้ดีทีเดียว ดอกมีกลิ่นหอมในช่วงเย็น ดอกตูมในวันแรกเป็นสีขาว เมื่อบานก็จะกลายเป็นสีชมพู และแดงตามลำดับ
- อัญชัน
ไม้เลื้อยริมรั้วบ้านคนไทยมาแสนเนิ่นนาน ลักษณะอัญชันคือโตง่ายเพราะเป็นไม้เนื้ออ่อน ไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มาก อาจจะมีการแต่งในบางพุ่มเพื่อไม่ให้ดูรกจนเกินไป ใบของอัญชันมีสีเขียวเข้ม เพิ่มความชุ่มชื่นทางสายตาเมื่อพบเห็น ดอกเป็นสีม่วงอมน้ำเงิน ออกตลอดปี นำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู หรือคงไว้ที่ต้นเพื่อแซมสีสัน ความน่ารักของต้นอัญชันก็คือ หากคุณไม่ต้องการให้เขาไปเกาะเต็มรั้ว เพียงนำไปแปะไว้กับโครงสร้างบางอย่าง เช่น เหล็กดัด หรือไม้ไผ่สาน เขาก็พร้อมใจเลื้อยขึ้นอย่างไม่อิดออด และใช้เวลาไม่นาน
- มะลิวัลย์
ไม้เลื้อยในวงมะลิที่หลายคนยังไม่เคยเห็น มะลิวัลย์มีดอกสีขาวกลีบเล็กเรียวแหลม ส่งกลิ่นหอมตลอดทั้งวันโดยเฉพาะช่วงกลางคืน ออกดอกเป็นช่อ และจะดกมากหากดูแลเขาเป็นอย่างดี ฉะนั้นไม่แนะนำให้ปลูกใกล้โซนพักอาศัยจนเกินไป เพราะอาจส่งกลิ่นฉุนจนปวดหัว ข้อดีของมะลิวัลย์คือโตเร็วและทนกับสภาพอากาศในเมืองไทย แต่คนปลูกต้องหมั่นตัดแต่งไม่ให้เกิดพุ่มรกเพราะธรรมชาติเป็นไม้เลื้อยเก่ง หากไม่ควบคุมทิศอาจจะไหลไปในมุมที่คุณไม่ต้องการ
พัธรพงศ์