เป็นที่รู้กันว่าเทพีวีนัสครองตำแหน่งด้านความงามอันเป็นที่สุดในบรรดาทวยเทพทั้งหลายแล้วหากจะมีดอกไม้สักชนิด ที่งดงามจนทำให้เทพสาวองค์นี้เกิดริษยาจนถึงขั้นต้องลงมือสาปส่งให้พิกลพิการ เพื่อมิอาจมาเสนอหน้าเปล่งประกายรัศมีความงามทาบเทียมกับตนได้ ก็ต้อง ‘ลิลลี่’ นี่ละ ที่วีนัสยอมให้เกียรตินั้น!
เชื่อว่า ‘ลิลลี่’ น่าจะเป็นดอกไม้แสนสวยที่หลายคนโปรดปราน เพราะรูปทรงอันอ่อนหวานแต่แฝงเร้นด้วยความงามสง่าเปี่ยมไปด้วยพลังแถมยังเต็มไปด้วยกลิ่นหอมจรุงใจล่อลวงให้ผู้คนมากมายทั้งหลงใหลและหลงรัก จนได้รับหน้าที่ให้เป็นตัวแทนของฤดูกาลแห่งชีวิตชีวาและการผลิดอกออกใบของพฤกษานานาพันธุ์อย่างในช่วงฤดูใบไม้ผลิซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สีสันของธรรมชาติจะแย้มบานกันอีกครั้งหลังผ่านพ้นความหนาวเหน็บแห่งเหมันต์กาลมานานหลายเดือน
ว่ากันว่ายุคสมัยที่เหล่าบรรดาทวยเทพยังเรืองฤทธากันอยู่ในโลกใบนี้ โดยมี ‘ซุส’ ดำรงตำแหน่งเป็นราชาแห่งทวยเทพผู้ซึ่งทรงทั้งศักดิ์และสิทธิ์ยิ่งกว่าเทพหรือเทพีองค์ไหนๆ หากแต่ซุสนั้นมีนิสัยเจ้าชู้แพรวพราวนักจึงมักจะไปก้อร่อก้อติกกับหญิงทุกผู้ที่มีรูปโฉมสะดุดตาโดยไม่เลือกว่าจะเป็นเทพหรือมนุษย์เดินดิน ทั้งที่ตนเองก็มีเทพีเฮร่า ซึ่งเป็นทั้งพี่สาวร่วมอุทรและภรรยาไปพร้อมกันเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว ทำให้เฮร่ามักต้องโมโหโกรธาและปวดเศียรเวียนเกล้ากับการตามล้างตามเช็ดเรื่องราวคาวโลกีย์ที่ซุสมักไปสร้างเอาไว้โดยไม่เว้นแต่ละวัน
และในกาลหนึ่งนั้น เมื่อซุสเกิดไปมีความสัมพันธ์กับนางมนุษย์นามว่า ‘อัลมีเน่’ จนเกิดผลลัพธ์เป็นมนุษย์ครึ่งเทพผู้ทรงพลังนามว่า ‘เฮราคลีส’ หรือ ‘เฮอร์คิวลิส’ ขึ้นมาเป็นหนามยอกอกของเทพีเฮร่า และเท่านั้นคงยังไม่สาแก่ใจซุสผู้ซึ่งอยากให้บุตรชายผู้เป็นที่รักได้ครองชีวิตอมตะดุจเดียวกับเหล่าทวยเทพทั้งหลาย ก็แอบวางยาองค์มเหสี จนเทพีเฮร่านั้นหลับใหล และเมื่อได้จังหวะที่กะประมาณเอาไว้ซุสก็แอบนำเฮลาคลีสไปวางไว้บนอกพระนาง เพื่อให้บุตรแห่งตนได้ดื่มน้ำนมจากอกของพระนางผู้ทรงศักดิ์ ซึ่งเป็นเส้นทางสู่ความอมตะตามที่ตนวางแผนไว้ ข้างฝ่ายเทพีเฮร่า เมื่อฤทธิ์ยาที่ซุสวางเอาไว้ค่อยๆ คลายลงพระนางจึงฟื้นองค์และลืมตามาพบกับทารกแปลกหน้าซึ่งกำลังดื่มกินน้ำนมตนเองอยู่ ด้วยความตกใจ พระนางจึงผลักไสเฮราคลีสออกไปจากอกส่งผลให้น้ำนมซึ่งกำลังไหลอยู่นั้นกระเซ็นกระสายสาดขึ้นไปบนฟากฟ้า ก่อให้เกิดเป็นจุดขาวที่ก่อตัวกันเป็นแถบยาวพาดผ่านท้องนภาในราตรีกาลที่เรียกกันว่า Milky Way หรือ ทางช้างเผือก และมีน้ำนมบางส่วนหยาดหยดลงบนพื้นดินแล้วกำเนิดเป็นดอกไม้งามสง่าสีขาวบริสุทธิ์ดั่งน้ำนมที่ชื่อว่า ‘ลิลลี่’ ขึ้นในโลกนี้เป็นดอกแรกนั่นเอง! เรื่องราวของลิลลี่คงจบแต่เพียงเท่านั้น หากเทพีวีนัสผู้กำเนิดจากฟองคลื่นและขึ้นชื่อเรื่องรูปโฉมอันงดงามจับตาเป็นที่สุดในบรรดาเหล่าเทพทั้งหลาย ไม่บังเอิญผ่านมาพบดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์อันงามสง่าอีกทั้งยังมีกลิ่นหอมละมุนจับตาจับใจดอกนั้นเข้าแล้วเกิดความริษยาว่าดอกไม้ดอกนั้นอาจจะมีความงามพิสุทธิ์เลิศเลอไปมากกว่าตน จนอดรนทนไม่ไหว สาปส่งให้ดอกไม้สีขาวสะอาดตาเกิดมีรอยด่างเป็นจุดกระจายตัวขึ้นมาบริเวณใจกลางดอก และเท่านั้นก็ยังไม่สาแก่ใจ วีนัสจึงขอสาปซ้ำเข้าไปให้ดอกลิลลี่พลันเกิดเกสรที่งอกยาวยื่นออกมา เพื่อหวังจะทำลายความงามล้ำที่เกินหน้าเกินตาตนเองให้ได้! จนส่งผลให้ดอกลิลลี่มีรูปลักษณ์ดังเช่นในปัจจุบัน และบางสายพันธุ์ยังเกิดจุดสีด่างลายกระจัดกระจายอยู่ด้านในของกลีบดอก
และด้วยความเชื่อที่ว่าดอกลิลลี่มีจุดกำเนิดมาจากน้ำนมในอกของเทพีเฮร่า ซึ่งชาวกรีกโบราณนับถือว่าพระนางเป็นเทพผู้เป็นตัวแทนของหญิงสาว การแต่งงาน และความซื่อสัตย์ในชีวิตคู่ ส่งผลให้เกิดพิธีกรรมเพื่อสักการะเทพีเฮร่าในงานพิธีสมรส เพื่อขอพรให้ชีวิตหลังแต่งงานของตนนั้นมีแต่ความซื่อสัตย์และมั่นคงยืนยาว นอกจากนั้นยังส่งผลให้ชาวกรีกโบราณต่างให้ความเคารพต่อดอกลิลลี่ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งเทพีเฮร่ามากเป็นพิเศษกว่าดอกไม้ใดๆ และยังทำให้ผู้คนรุ่นหลังนิยมใช้ดอกลิลลี่ในการจัดพิธีแต่งงานสืบมาจนถึงยุคปัจจุ
บันนั่นเอง
นอกจากตำนานอันแสนมหัศจรรย์จากทางฝั่งตะวันตกแล้ว ในประเทศจีนยังเชื่อกันว่า ถ้าใครได้พบเห็นดอกลิลลี่ในความฝันอันเกิดในช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว จะตีความได้ว่าคนผู้นั้นจะได้พบกับชีวิตที่แสนสมบูรณ์และเต็มไปด้วยความเจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้า แต่หากฝันเห็นดอกลิลลี่ในช่วงฤดูหนาวเรื่องราวที่แสนดีจะกลับเปลี่ยนเป็นเลวร้าย เพราะว่ากันว่านั่นจะกลายเป็นฝันที่ชี้ชะตาว่าคนผู้นั้นจะต้องพบเจอกับชีวิตอันแสนจะแห้งแล้ง ยากลำบาก และปราศจากคู่ครอง!
ส่วนทางฝั่งของคริสตศาสนานั้นมองว่าดอกลิลลี่เป็นสัญลักษณ์แห่งพระแม่มารีผู้หมดจดและงดงาม รวมทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ชีวิต ความจริงใจไปจนถึงความอาลัยอาวรณ์ โดยเฉพาะดอกลิลลี่สีขาวนั้นยังแฝงมากับความหมายที่สื่อถึงความบริสุทธิ์ใจ ความไร้เดียงสา ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความสุขสงบ และสรวงสวรรค์นั่นทำให้ผู้คนส่วนใหญ่นิยมนำดอกลิลลี่สีขาวไปใช้แสดงความรู้สึกในวาระที่ต่างกัน ตั้งแต่ความเปรมปรีดิ์ในงานแต่งงานยันการแสดงความอาลัยต่อผู้วายชนม์ในงานศพเมื่อมีคนที่รักต้องจากลา
ด้วยรูปลักษณ์ที่ชวนให้รู้สึกถึงความหรูหราและสง่างามบางคนจึงขนานนามลิลลี่ว่าเป็นดอกไม้ของเจ้าหญิง ซึ่งเป็นคำนิยามที่บ่งบอกให้รู้ถึงคุณค่าซึ่งมาพร้อมกับความงดงามตรึงใจ ชนิดที่ยากจะหาดอกไม้ในวงศ์อื่นใดมาเทียบเคียง ทำให้ลิลลี่กลายเป็นดอกไม้ยอดนิยมของผู้คนทั่วทั้งโลก เป็นดอกไม้ที่สูงทั้งค่าและราคา ซึ่งเชื่อว่าผู้รับทุกคนต้องประทับใจ
Pictures by FB : MANASAWii
Sudsaijai