Skip to content

Floral Inspiration Edutainment

RakDok (รักดอก)

เดซี่


“You can’t be sad when Daisy is around, she won’t let you.” “คุณจะปราศจากความเศร้าเมื่ออยู่ท่ามกลางดอกเดซี่ ไม่มีทางที่มันจะปล่อยให้คุณรู้สึกแย่” - Maryam Faresh

Meaning

Daisies spread hope like the sun
ดอกไม้แห่งความหวัง
    เดซี่เป็นดอกไม้ซึ่งเหมาะจะมอบเป็นของขวัญแสดงความยินดีแก่ทารกแรกเกิดหรือคุณแม่มือใหม่ เพราะนอกจากจะหมายถึงความบริสุทธิ์แล้ว เดซี่ยังเป็นดอกไม้ที่สื่อถึงดวงอาทิตย์ การเริ่มต้นใหม่ ความอบอุ่น และความหวัง เนื่องจากพวกมันจะแย้มบานทุกครั้งเมื่อต้องแสงแดดในยามเช้า รวมทั้งยังเป็นตัวแทนของความแข็งแกร่งพากเพียร เพราะเดซี่เจริญเติบโตได้ง่ายและไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในเกือบทุกสภาพแวดล้อม แม้เดซี่ซึ่งทุกคนคุ้นตาจะเป็นไม้ดอกเล็ก ๆ มีกลีบเป็นแฉกสีขาวและเกสรตรงกลางสีเหลืองสดใส แต่ความจริงแล้ว สายพันธุ์ของเดซี่นั้นยังมีสีอื่น ๆ ให้ได้พบเห็นกันด้วย

    ดอกเดซี่สีขาว เป็นตัวแทนแห่งความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา และความเที่ยงแท้
    ดอกเดซี่สีส้ม มีความหมายว่า ‘คุณคือแสงสว่างในชีวิตของฉัน’
    ดอกเดซี่สีแดง เป็นสัญลักษณ์ของความโรแมนติก ความหลงใหล และความรักที่ทุ่มเท
    ดอกเดซี่สีเหลือง สื่อความหมายว่า ‘ฉันจะเอาชนะใจเธอให้ได้’ และเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและมิตรภาพด้วย

Daisies and other stories
เรื่องอยากบอกของ ‘ดอกเดซี่’ 
    เดซี่เป็นพืชที่เติบโตง่ายและแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ในประเทศอเมริกา ดอกอิงลิชเดซี่ (English Daisy) ถูกมองว่าเป็นวัชพืชที่ทำลายได้ยาก ส่วนตำนานของชาวเซลติกในประเทศอังกฤษเชื่อกันว่า ดอกเดซี่เกิดจากการที่พระเจ้าโปรยดอกไม้ลงมายังพื้นโลก เพื่อช่วยปลอบประโลมจิตใจบรรดาพ่อแม่ผู้สูญเสียลูกไปตั้งแต่วัยเยาว์

History

    เดซี่ มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศเม็กซิโก และรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา แต่ปัจจุบันพบได้ในเกือบทุกพื้นที่ทั่วโลก เพราะเดซี่เป็นดอกไม้ที่เติบโตได้ง่ายในเกือบทุกสภาพอากาศ เชื่อกันว่ามนุษย์รู้จักดอกเดซี่มานานเกินกว่า 4,000 ปี เนื่องจากเคยมีการขุดค้นพบเครื่องประดับศีรษะซึ่งตกแต่งด้วยลวดลายของดอกไม้ที่แลดูคล้ายดอกเดซี่ ณ ปราสาทไมนวน บนเกาะครีต ประเทศกรีซ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดอารยธรรมของโลก รวมถึงยังมีการค้นพบเครื่องกระเบื้องของชาวอียิปต์โบราณ ซึ่งมีการตกแต่งด้วยลวดลายของดอกเดซี่เช่นกัน ชาวอังกฤษในยุคโบราณเรียกดอกเดซี่ว่า Day’s Eye เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่บานในช่วงเช้า และหุบกลีบเมื่อสิ้นแสงอาทิตย์

Culture

    กล่าวกันว่าชาวอัสซีเรียนในยุคโบราณ นำดอกเดซี่มาบดผสมกับน้ำมัน เพื่อใช้เป็นยาย้อมผมที่หงอกขาวให้กลับเป็นสีดำ ตำรายาโบราณบางเล่มยังเชื่อว่าดอกเดซี่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคเกี่ยวกับตาได้ด้วย ว่ากันว่าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 7 ของอังกฤษ ทรงเสวยดอกเดซี่เพื่อรักษาอาการปวดโรคกระเพาะ นอกจากนั้น ในวัฒนธรรมตะวันตกมักจะเห็นภาพเด็กๆ นำดอกเดซี่มาถักเป็นมงกุฎไว้สวมใส่ อีกทั้งยังมีการนำดอกเดซี่มาใช้เป็นดอกไม้เสี่ยงทายความรัก โดยนำมาเด็ดกลีบออกทีละกลีบ แต่ละกลีบแทนคำว่า รัก หรือ ไม่รัก สลับกันไป และกลีบสุดท้ายที่เหลือจะกลายเป็นผลลัพธ์ของการเสี่ยงทายความรัก

Anecdote

    ในช่วง ค.ศ.1800 ‘Daisy’ กลายมาเป็นคำแสลง ‘That’s a daisy!’ หมายถึงบางสิ่งบางอย่างซึ่งมีคุณภาพดีเยี่ยม และ ‘ups-a-daisy’ เป็นวลีที่ผู้ใหญ่มักจะใช้พูดให้เด็ก ๆ ลุกขึ้นเมื่อล้มลง แต่เมื่อเวลาผ่านมาถึงยุคปัจจุบัน จาก ‘That’s a daisy!’ ก็กลายมาเป็น ‘That’s a doozy!’ และ ‘ups-a-daisy’ ก็กลายเป็น ‘whoops-a-daisy’ หรือ ‘oopsy daisy’ ซึ่งเป็นคำที่จะใช้เมื่อเกิดความผิดพลาดบางอย่างขึ้น

Basic Facts

Scientific Name: Bellis perennis
Family: Asteraceae
Colors: ขาว, เหลือง, ส้ม และแดง แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือกลีบดอกสีขาวและเกสรสีเหลือง
Seasons: ตลอดทั้งปี
Length of time to grow: 60 - 90 วันโดยประมาณ (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์) ปลูกโดยการเพาะเมล็ด

Reference