Photo Credit : In Ukraine, These Stunning Floral Crowns Are In Style
มงกุฎดอกไม้ ทำนายชะตา
‘มงกุฎดอกไม้’ หรือ ‘Vinok’ ในภาษายูเครนนั้น นับเป็นเครื่องประดับครองใจหญิงสาวมาตั้งแต่ยุคโบราณ และถือเป็นรางวัลแสนสวยที่หาได้จากธรรมชาติรอบตัว ชนชาติตะวันตกหลายประเทศจึงมีความเชื่อหรือเรื่องเล่าที่เชื่อมโยงกับมงกุฎดอกไม้ และยูเครนก็เป็นหนึ่งในนั้น
ขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ใช้มงกุฎดอกไม้ในฐานะเครื่องประดับ แต่มงกุฎดอกไม้ในยูเครนมีความหมายมากกว่านั้น เพราะมันได้รับการยกฐานะให้เป็นส่วนหนึ่งของชุดประจำชาติ รวมทั้งเป็นเครื่องประดับที่จะสวมใส่กันเมื่อถึงโอกาสสำคัญในช่วงชีวิตของเด็กหญิงและหญิงสาวที่ยังไม่ได้แต่งงาน หนึ่งในเทศกาลที่จะขาด Vinok ไปไม่ได้ คือเทศกาลสำคัญทางคริสตศาสนานิกายออโธดอกซ์อย่าง Ivan Kupala ซึ่งสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยที่ยูเครนยังเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย โดยหญิงสาวจะประดิษฐ์มงกุฎของตนเองขึ้นมาจากดอกไม้นานาชนิดรอบตัว เพื่อใช้สวมใส่ในงานพิธี และสิ่งหนึ่งซึ่งถือเป็นธรรมเนียมของงานนี้ คือการนำมงกุฎที่ประดิดประดอยขึ้น วางลงไปในน้ำพร้อมกับจุดเทียน เพื่อใช้ทำนายคู่ครองในอนาคต เชื่อกันว่าคู่แท้จะมาจากทิศทางที่มงกุฎลอยน้ำไป แต่ถ้า Vinok ของใครลอยอยู่นิ่งๆ ไม่ไหลไปตามกระแสน้ำ แปลว่าเธอผู้นั้นจะขึ้นคานมิได้แต่งงานตลอดชีวิต… หากมงกุฎยังลอยอยู่แต่เปลวเทียนที่จุดไว้ดับลง ว่ากันว่าเจ้าของมงกุฎจะประสบโชคร้าย และหากมงกุฎดอกไม้จมน้ำหายลงไป…
อาจหมายความถึงอายุขัยที่สั้นลงเมื่อหญิงสาวทั้งหลายต่างรอคอยเนื้อคู่ตามคำทำนายที่เลื่อนไหลไปกับมงกุฎในสายน้ำ ชายหนุ่มบางคนจึงกำหนดอนาคตความรักของพวกเธอ ด้วยการแอบว่ายน้ำไปเก็บ Vinok ของสาวที่ตนหมายปอง เพื่ออ้างสิทธิ์ในพรหมลิขิตรัก ดังเช่นท่อนหนึ่งของเนื้อเพลงประจำเทศกาลที่ขับขานว่า
“Who will catch the wreath will catch the girl, who will get the wreath will become mine."
(ผู้ใดเก็บมงกุฎดอกไม้ได้ จะได้ใจหญิงสาว, ผู้ที่เก็บมงกุฎดอกไม้ได้ จะกลายเป็นของฉัน)
Vinok เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมหญิงสาวที่สวมมันจึงต้องเป็นหญิงบริสุทธิ์ที่ยังไม่เคยแต่งงาน วันสละโสดของพวกเธอเป็นวันสุดท้ายที่จะได้ใช้มงกุฎดอกไม้ประดับบนศีรษะ หญิงสาวส่วนใหญ่จึงตั้งใจประดิษฐ์ Vinok ชิ้นสุดท้ายอย่างสวยงามเพื่อสวมเป็นเครื่องประดับในพิธีแต่งงาน โดยนำดอกไม้ความหมายดีๆ รวมถึงวัสดุต่างๆ อย่างริบบิ้นหลากสี เหรียญ ขนนก ดอกหญ้า ผ้า ขี้ผึ้ง ใบไม้ มาประดับตกแต่ง และหากไม่สามารถหาดอกไม้สดได้ อาจพลิกแพลงใช้ดอกไม้แห้งหรือดอกไม้กระดาษตกแต่ง Vinok ตามแต่จินตนาการ เพื่อส่งท้ายชีวิตวัยสาว
หลังจากพิธีสมรสผ่านไป หญิงสาวชาวยูเครนซึ่งหมดโอกาสในการสวมใส่ Vinok แล้ว
จะหันมาใช้ผ้าโพกศีรษะที่เรียกว่า Ochipok แทน ตามความเชื่อที่ว่ามงกุฎดอกไม้หรือผ้าโพกศีรษะจะปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไปจากชีวิต
สำหรับสาวยูเครนในยุคก่อน Vinok จึงไม่ใช่แค่เพียงเครื่องประดับที่ทำให้พวกเธอดูดีหากแต่เป็นสิ่งสำคัญที่ใช้ลิขิตโชคชะตาของชีวิตจากเด็กสาวเพื่อก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ การบรรจงตกแต่งมงกุฎดอกไม้จึงเต็มไปด้วยความหมาย เชื่อได้เลยว่าสาวๆ ทั้งหลายคงทุ่มเททั้งฝีมือและหัวใจในการถักทอมงกุฎดอกไม้แห่งโชคชะตา เพื่อให้อนาคตที่ยังมาไม่ถึงของพวกเธอสวยสดใสเหมือน Vinok
Sudsaijai