เรียนรู้การทำสมาธิผ่านดอกไม้ และเพิ่มเวลาให้เขาอยู่กับเรานานที่สุด
“คนที่ผ่านไปมามักคิดว่ากุหลาบของฉันก็เป็นกุหลาบธรรมดาเหมือนพวกเธอ
แต่เธอเป็นเพียงหนึ่งเดียวที่มีความสำคัญต่อฉันมากยิ่งกว่าพวกเธอทั้งหมด
เพราะฉันเป็นคนรดน้ำให้เธอ เพราะฉันเป็นคนเอาฝาแก้วไปครอบให้เธอ
เพราะฉันเป็นคนสร้างเครื่องกำบังลมให้เธอ เพราะฉันเป็นคนกำจัดหนอนให้เธอ
เพราะฉันเป็นคนฟังเธอพร่ำบ่น ฟังเธอโอ้อวด และรวมทั้งฟังเธอนิ่งเงียบ
ฉันจึงได้เป็นเจ้าของเธอ”
บทสนทนาของเจ้าชายน้อยที่พรั่งพรูความในใจออกมากับดอกกุหลาบของเขา ว่ากุหลาบที่เขาทะนุถนอมเป็นอย่างดีนั้นสำคัญกับชีวิตเขามากเพียงใด ธรรมชาติรังสรรค์มวลดอกไม้ให้มีสีสันและกลิ่นหอม ยั่วยวนเหล่าแมลงให้บินโฉบมาเพื่อช่วยในการผสมพันธุ์ ส่วนมนุษย์ผู้กำเนิดตามมาในภายหลัง ทว่าพระเจ้าได้ประทานรอยหยักในสมองเพื่อให้พวกเขาได้ขบคิด และพบว่าการประคบประหงมดอกไม้ช่วยบำบัดจิตใจให้พ้นจากความเครียดได้เป็นปลิดทิ้ง
เคยมีคนตั้งคำถามว่า “ดอกไม้จะตายลงเมื่อไหร่” บ้างก็ว่าตั้งแต่โดนลิดออกมาจากต้นตามหลักทฤษฎี บ้างก็ให้เหตุผลจากความรู้สึก ว่าคงจะตายหลังจากที่ถูกใช้งานตามหน้าที่ของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย หรืออาจจะเป็นวาระสุดท้ายที่ความงดงามบินจากไปกลายเป็นสิ่งปฏิกูล คำตอบที่ได้อาจไม่ชัดเจนในตอนแรก จนเราได้มาเจอ ‘พี่น้อย’ หญิงชาวเชียงใหม่ผู้มีหน้าที่จัดเรียงความงามบนผืนน้ำทุกวัน
พี่น้อยจะตื่นตั้งแต่เช้า เดินลัดเลาะไปทั่วรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ริม เพื่อเก็บดอกไม้หลากสีซึ่งร่วงหล่นอยู่บนพื้นหญ้า แต่ยังสวยสดพอที่จะนำมาประดับประดาให้สถานที่แห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นได้ เมื่อได้จำนวนที่พอใจ พี่น้อยจะตระเวนเดินไปจุดต่างๆ ที่มีภาชนะใส่น้ำรอไว้อย่างพร้อมเพรียง แล้วจัดแจงเรียงรายตามจินตนาการโดยไม่ได้ตระเตรียมรูปแบบใดมาก่อน เพราะพี่น้อยไม่รู้เลยว่าจะเก็บดอกไม้ชนิดไหนได้มากน้อยเท่าไหร่ในแต่ละวัน
ไอเย็นที่ระเหยขึ้นมาจากน้ำค้างที่เกาะอยู่ตามยอดรวงข้าวในตอนเช้า สร้างบรรยากาศให้กิจกรรมที่พี่น้อยกำลังลงมือดูคล้ายการทำสมาธิอย่างไม่ผิดเพี้ยน เธอบรรจงวางดอกไม้ทีละดอกอย่างเบามือเพื่อไม่ให้ผิวน้ำกระเพื่อมจนเสียรูปทรงที่เพิ่งสร้างเอาไว้ สายตาสัมพันธ์กับลมหายใจ มือข้างซ้ายถือตระกร้าหวายไว้อย่างมั่นคง ส่วนมือข้างขวาเปรียบเหมือนพู่กันวาดงานศิลปะชิ้นเอกเอาไว้จรรโลงจิตใจผู้ที่ผ่านมาพบเห็น
เมื่อผลงานชิ้นหลักกลางล็อบบี้เสร็จ เราเอ่ยชมด้วยความจริงใจ พี่น้อยตอบรับอย่างถ่อมตัว แล้วรีบเดินไปจัดแจงดอกไม้ในอ่างอื่นต่อ เพราะกลัวว่าเวลาที่ช้าเกินไปอาจลดความสดใสของดอกไม้ลงได้
สรุปแล้ว “ดอกไม้จะตายลงเมื่อไหร่?” ในแต่ละวัน ดอกไม้ถูกมอบบทบาทให้ทำหลายหน้าที่ ทั้งอยู่ในพิธีกรรมทางศาสนา เป็นตัวแทนของความห่วงใย หรือใช้บอกลาคนที่เรารัก แล้วหลังจากที่พวกเขาทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จแล้วล่ะ ปลายทางของดอกไม้เหล่านั้นไปอยู่ตรงไหนกันนะ ไม่ว่าจะแปรรูปจากช่อขนาดใหญ่ให้กลายเป็นดอกเดี่ยวบนโต๊ะทำงาน หรือนำมาทับแบบนักพฤกษศาสตร์ก็ล้วนแต่สร้างอรรถประโยชน์ได้ไม่แพ้กัน
เราไม่แน่ใจว่าพี่น้อยใช้เวลาอยู่กับตัวเองและฝึกฝนศิลปะการลอยดอกไม้บนผืนน้ำมานานขนาดไหน แต่ดูแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ลมหายใจกับปลายนิ้วมือทำงานสอดคล้องอย่างสามัคคีกลมเกลียว สมาธิคือกุญแจสำคัญที่ทำให้พี่น้อยสร้างผลงานออกมาได้ทรงพลัง ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ดอกไม้จะเข้ามามีบทบาทในฐานะเครื่องมือบำบัดจิตรักษาใจ แต่นี่เป็นการปั๊มหัวใจให้พวกเขามีชีวิตอยู่ต่อได้นานยิ่งขึ้น
ดอกไม้เหล่านี้จะถูกยืดอายุการใช้งานไม่ให้จบลงเพียงเพราะรับใช้หน้าที่แค่หนึ่งหรือสองอย่างเท่านั้น หากสังเกตให้ดี พี่น้อยไม่ได้ผลักทุกดอกลงไปในทันที บ้างโดนกระจายเป็นกลีบเพื่อเกลี่ยสีให้ครอบคลุมพื้นที่ หรือนำไปแซมกับต้นจอกจนกลายเป็นจุดสนใจ มากกว่าตอนอยู่บนต้นตัวเองเสียอีก นี่คือการเพิ่มทั้งมูลค่า และคุณค่าให้กับดอกไม้ ผ่านไปอีก 3 – 4 วัน ดอกไม้เหล่านี้ก็คงเหี่ยวเฉาเป็นเรื่องธรรมดาตามวัฎจักร แต่เชื่อเหลือเกินว่าพวกเขาคงมีความสุขมาก ที่มีคนสนใจ ใส่ใจ และตั้งใจกับหนึ่งชีวิตที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้
อยากลองลอยดอกไม้ดูกันบ้างไหม อ้อ ไม่ต้องไปซื้อนะคะ ดอกไม้ที่ถูกใช้งานแล้วมีอยู่เยอะแยะ พวกเขารอคุณอยู่