หน้าวัว
Meaning
In the shape of a heart
หัวใจแห่งไมตรีจิต
แม้จะได้ชื่อว่าดอกหน้าวัว แทนที่จะดูคล้ายสัตว์ตัวโตตัวนั้นเพียงมองปราดเดียวก็ต้องยอมรับว่าดอกไม้ชนิดนี้ดูคล้ายคลึงกับรูปทรงหัวใจเสียมากกว่า เพราะเหตุฉะนี้ดอกหน้าวัวในภาษาดอกไม้จึงทำหน้าที่ส่งสารแสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความมีไมตรีจิต ตลอดจนความปรารถนาดีจากผู้ให้สู่ผู้รับ นอกจากนี้ดอกหน้าวัวยังเป็นตัวแทนของความสุขและความอุดมสมบูรณ์ ผู้คนจึงมักปลูกไว้ในบ้านหรือออฟฟิศเพื่อดึงดูดแต่สิ่งดี ๆ ผู้คนในโลกตะวันตกมอบดอกหน้าวัวสีแดงแทนความหมายของความรัก ความปรารถนา เป็นความรักที่มั่นคง อดทน เหมือนกับตัวดอกไม้ที่ทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อม
Championship Flower
นักเลงไม้ประกวด
ในสมัยก่อนนับตั้งแต่ที่หน้าวัวแพร่หลายเข้ามาในไทยสมัยรัชกาลที่ 5 ก็เกิดกลุ่มคนที่นิยมเล่นดอกหน้าวัวสายพันธุ์สวยงามกันมากมาย ถึงกับมีการซื้อขายกันหลักหลายพันไปจนถึงหลักหมื่นเพื่อสะสม ผู้ดีมีเงินในสมัยนั้นมักเลี้ยงดอกหน้าวัวเพื่อใช้ประกวด เรียกว่ามีสนามประกวดดอกหน้าวัวโดยเฉพาะเป็นกิจลักษณะ การเลี้ยงก็จำเป็นต้องมีเทคนิคเฉพาะตัวเพื่อให้ได้ดอกไม้ที่ได้มาตรฐานตามพิมพ์นิยมคือ ‘หูสูงพนมชิดติดกัน ปลีโค้งจดปลายจาน ย่นสองข้างต้องลึกเท่ากัน ดอกต้องสูงกว่าใบทุกใบในต้น’ น่าเสียดายที่ในปัจจุบันหลงเหลือนักเล่นหน้าวัวในไทยจำนวนไม่มากแล้ว
History
หน้าวัว หรือ Anthurium เป็นไม้ดอกที่มีชื่อเรียกหลากหลายมาก อาทิ Flamingo Flower, Boy Flower, Painted Tongue ไปจนถึง Painter's Palette ชื่อของเจ้าตัวมาจากคำภาษากรีกที่มีความหมายว่า ‘ดอกไม้มีหาง’ สันนิษฐานว่าน่าจะเพราะรูปลักษณ์ของหล่อนที่มีแกนงอกขึ้นมาจากกลางดอก เรียกกันว่า ‘ปลี’ ซึ่งเป็นส่วนดอกที่แท้จริง บริเวณรูปหัวใจที่เราเข้าใจกันว่าเป็นดอกที่จริงแล้วเป็นส่วนของจานรองดอก ดอกหน้าวัวมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ป่าดิบชื้นในโคลัมเบีย ก่อนจะเข้าสู่ฮาวายในปี 1889 หลังจากนั้นอีกราวเจ็ดสิบปี ดอกหน้าวัวก็กลายเป็นสินค้าส่งออกที่แพร่หลายไปทั่วยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และไต้หวัน ก่อนจะเข้าสู่ประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 5
Culture
ในโลกตะวันตกผู้คนนิยมมอบดอกไม้ชนิดนี้ในโอกาสแสดงความยินดีต่าง ๆ อาทิ การขึ้นบ้านใหม่ วันสำเร็จการศึกษา ไปจนถึงงานเฉลิมฉลองทั่วไป ด้วยความที่รูปร่างของเจ้าหล่อนคล้ายคลึงกับหัวใจจึงนิยมใช้จัดเป็นช่อดอกไม้เจ้าสาวในวันแต่งงานเช่นกัน ตรงข้ามกับประเทศไทยที่ดอกหน้าวัวกลายเป็นดอกไม้อวมงคลเพราะนิยมใช้ตกแต่งพวงหรีดในงานศพ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันดอกหน้าวัวกลายเป็นหนึ่งในไม้เศรษฐกิจสำคัญของไทยที่ส่งออกตีตลาดต่างประเทศสร้างรายได้ถึงปีละกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท
Anecdote
ถึงจะหน้าตาดูเป็นมิตรแต่ดอกหน้าวัวเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดเมื่อเคี้ยวหรือกลืนเข้าไป เพราะในดอกไม้มีสารแคลเซียมออกซาเลตที่ทำลายเนื้อเยื่อ ทำให้น้ำลายไหล แสบร้อนในช่องปาก และอาเจียน หากกินเป็นจำนวนมากอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้