รวงผึ้ง
Meaning
Don’t Worry, Bee Happy
ยามโน้มโลมดิน ภุมรินก็เบิกบาน
ดอกรวงผึ้งเป็นพรรณไม้ท้องถิ่นของไทยที่มีรูปลักษณ์สะสวย อวลด้วยกลิ่นหอมหวาน ยามดอกไม้สีเหลืองสดแย้มกลีบห้าแฉกคล้ายดาวที่มีเกสรชูช่อละลานตาสะพรั่งเต็มต้น ก็มักดึงดูดเหล่าภมรมาห้อมล้อมคล้ายกับว่าเป็นสรวงสวรรค์ในจินตนาการที่ผึ้งทุกตัวใฝ่ฝันหา ผู้คนนิยมปลูกไว้เป็นไม้ประดับที่ช่วยปรับบรรยากาศบ้านให้ดูสดใส สดชื่น หรือให้ร่มเงาในส่วนที่ไม่ต้องการแสงแดดมาก ทั้งยังเป็นไม้ที่มีความหมายมงคลให้คุณในทางดีแก่ผู้อยู่อาศัยในบ้าน โดยเฉพาะคนที่มีธาตุไฟที่เชื่อกันว่าจะได้รับสิริมงคลจากการปลูกไม้ชนิดนี้
Flower of the King
ไม้สำคัญประจำรัชกาล
ต้นรวงผึ้งยังมีความสำคัญอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ เป็นพรรณไม้ประจำพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 เนื่องจากดอกที่มีสีเหลืองอร่ามตรงกับสีประจำวันพระราชสมภพ ทั้งยังออกดอกตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมซึ่งตรงกับเดือนพระราชสมภพพอดี ตั้งแต่ที่ยังทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ยามเมื่อพระองค์เสด็จฯ ประกอบพระราชกรณียกิจในที่ต่างๆ ก็จะทรงปลูกต้นรวงผึ้งพระราชทานแก่สถานที่แห่งนั้นเพื่อเป็นตัวแทนพระองค์ รวมถึงเป็นสิริมงคลแก่พสกนิกร
History
ถิ่นกำเนิดของดอกรวงผึ้ง หรือ Yellow star นั้นมีที่มาจากบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย และพื้นที่รอบๆ ไล่เรื่อยมาจนถึงภาคกลาง รวงผึ้งจัดเป็นไม้ในสายพันธุ์เดียวกับปอกระเจา และตะขบฝรั่ง ทั้งยังเป็นพืชถิ่นเดียว พบได้มากบริเวณป่าดิบเขาที่ระดับความสูงราว 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล คนภาคเหนือเรียกดอกไม้ชนิดนี้ว่า ดอกน้ำผึ้ง ขณะที่ภาษากลางเรียกว่า สายน้ำผึ้ง แม้จะจัดอยู่ในประเภทไม้ยืนต้นขนาดเล็กแต่ด้วยความที่เป็นไม้ทนต่อสภาพแวดล้อมจึงขยายพันธุ์ได้ง่าย ให้ดอกคราวละมากๆ ซึ่งดึงดูดผึ้งมารุมล้อมเป็นกลุ่มใหญ่ คนที่กลัวผึ้ง หรือมีปฏิกิริยาแพ้รุนแรงเมื่อถูกผึ้งต่อยควรหลีกเลี่ยงปลูกไว้ในบ้าน
Culture
นอกจากปลูกเป็นไม้ประดับเพื่อความสวยงาม เป็นสิริมงคลแล้ว ความที่เจ้าตัวมีกลิ่นหวานหอมเป็นเอกลักษณ์ ในอดีตดอกรวงผึ้งจึงถูกนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในตำรับน้ำปรุงโบราณ รูปลักษณ์ที่โดดเด่นของตัวดอกเองก็ถูกนำไปเป็นแบบรังสรรค์ลวดลายงานศิลปะชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นพัสตราภรณ์ เครื่องทรงโขน เครื่องละครรำ รัดเกล้าเปลว ไปจนถึงเครื่องประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อยต่าง ๆ แม้ลวดลายเหล่านี้จะสูญหายไปตามกาลเวลา แต่เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้ทรงรื้อเอาโขนพระราชทานกลับมาทำใหม่ ก็โปรดฯ ให้นำลวดลายดอกรวงผึ้ง และลวดลายโบราณอื่น ๆ กลับมาใช้ในงานพัสตราภรณ์อีกครั้ง
Anecdote
ยามดอกรวงผึ้งบานจะบานเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ราว 7 - 10 วัน หากดินที่ใช้ปลูกในขณะนั้นมีลักษณะแห้งแล้งจะให้ดอกคราวละมาก ๆ ในครั้งเดียว แต่หากพื้นที่นั้นมีความชื้นดอกจะบานไม่พร้อมกัน หรือออกดอกเพียงประปราย
Basic Facts
Reference
http://www.royalparkrajapruek.org/Knowledge/view/25
http://clgc.agri.kps.ku.ac.th/resources/old-fragrant/schoutenia.html
https://sites.google.com/site/prawatir10/home/pra-w-ti/tnmi-praca-rachkal
https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/377/รวงผึ้งพรรณไม้ประจำรัชกาลที่10
http://www.crownproperty.or.th/post/ต้นรวงผึ้ง-ต้นไม้ประจำรัชกาลที่-10
https://web.facebook.com/618245741648114/posts/630876477051707/?_rdc=2&_rdr