ชีวิตใคร ใครก็ควรเด็กพอที่จะเลือกเองได้
ใคร, ที่ไหนสักที่, ได้กล่าวไว้ว่า มีแต่สายตาของเด็กเท่านั้นที่มองเห็นโลกด้วยมุมอันย้อนแย้งกลับไปกลับมาระหว่างเหรียญสองด้าน หรือหลากด้านกว่านั้น โลกที่ส่วนผสมระหว่างสรรพสิ่งไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ทุกรูปแบบของชีวิตคือความเป็นไปได้ และทุกความตายตัวได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว
เยาว์วัยคือสภาวะของชีวิตที่ลึกซึ้งที่สุดแล้วในการมองเห็นโลก และพลันที่ลมหายใจแห่งความเป็นเด็กถูกกล่อม – เกลา, เหลาอย่างประณีต ชีวิตถูกจัดวางอย่างวิจิตรบรรจงด้วยการหายใจตามก้นกันไปเป็นริ้วขบวน จน “งดงามแห่งชีวิต” นั่นถูกเรียกขานอย่างอวดโอ่ว่าโลกของผู้ใหญ่ พลันแบบนั้นนั่นเอง ที่โลกหลากมิติ, อภินันทนาการแห่งความเป็นเด็ก, จะอันตรธานหายไปจากการมองเห็น แต่ไม่สาปสูญไปจากการดำรงอยู่ มันแค่ถูกผลักเก็บเข้าไปไว้ในมุมมืด พร้อมเรียกขานกันในนามใหม่ว่า ความไม่ถูกไม่ควร ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความอ่อนด้อยนานัปการทั้งประสบการณ์และปัญญา โลกแบบนี้แหละที่จงใจกลบพรากคาถาประจำตัวเด็ก – ทำไมและทำไม, ให้ค่อยเลือนหายออกไปจากชีวิตโดยสงบราบคาบ – โดยศิโรราบนั่นแหละพูดมาเถอะ
ใช่, เพื่อที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเด็กต้องแลกมันมาด้วยการสูญเสียสายตาไร้เดียงสาที่ครอบครองการมองเห็นแยบยลของโลกซ้อนโลกแบบกระจ่างแจ่มออกไปอย่างไม่เหลือเยื่อใย และอย่าถามว่า – ทำไม
โลกวิปริตวิปลาสจ้องพรากความไร้เดียงสากันไปแบบนั้น นั่นไม่ใช่โลกของ Dancing girls
Dancing Girls: “ไม่อดทน” หมายถึง “เลือกเองเป็น”
Dancing girls ดอกไม้สีขาวดอกเล็ก หน้าตาเหมือนเด็กหญิงเต้นรำมากกว่าเหมือนดอกไม้ด้วยกันเอง เธอใช้ชีวิตเริงระบำอยู่ในป่าฝนแถบแอฟริกาตะวันออก เมื่อเติบโตเต็มที่กลีบดอกผิวขาวปริ่มชมพูจาง ๆ จะบานระบายตัวออกมาราวกับชุดเต้นรำที่แต้มประดับด้วยจุดสีเหลืองน่ารักสองจุด ซึ่งทำหน้าทำตาราวกับว่าตัวเองคือกระดุมเม็ดเล็กที่เข้าคู่มากับชุดเต้นรำ ในขณะที่กลีบดอกอีกสองกลีบโพสต์ท่าดุจเรียวขาอวบของเด็กหญิงสักคนหนึ่ง ส่วนที่ก้นดอกก็จะมีก้านสีไวน์แดงคอยส่งยื่นหน้าขาวอมชมพูระเรื่อให้ออกมาทักทายผู้คน ยิ่งถ้าเลี้ยงเธอไว้ในกระถางเล็ก แล้วแขวนเธอไว้ในร่ม เธอก็จะอารมณ์ดียื่นหน้าขาวระเรื่อจางชมพูมาทักทายเราได้พอดิบพอดี…ตรงหน้าของเรานี่เลย ใบไม้ของเด็กหญิงเต้นรำจะเป็นใบไม้รูปหัวใจที่มีสีเขียวมะกอกผสมสีแดงเข้มอยู่ด้วยกัน
นี่คือลักษณะที่เรียกว่า Dancing girls พันธุ์แท้ ไม่ใช่พันธุ์ทางหรือลูกผสม
เด็กหญิงเต้นรำเป็นหนึ่งในสมาชิกของพืชวงศ์เทียน (Balsaminaceae) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 สกุล คือ สกุล Hydrocera และสกุล Impatiens สมาชิกของสองสกุลนี้รวมกันก็มีกว่า 1,000 ชนิด Dancing girls อยู่ในสกุล Impatiens Bequaertii แต่ท่ามกลางความอุ่นหนาฝาคั่งของวงศาคณาญาตินับพันชนิดนั้น Dancing girls พันธุ์แท้กลับหายากประหนึ่งเด็กหญิงที่กำลังเต้นรำอยู่ในพิธีกรรมงมเข็มใต้มหาสุมทรลี้ลับที่ไหนสักแห่ง
Impatiens ก็คือ Impatiens นิสัยแปลตรงตัวตามนั้นไม่อ้อมค้อม – ไม่อดทนคือไม่อดทน ว่ากันว่าเมล็ดของ Impatiens นั้นไม่อดทนกับสภาพอากาศที่เย็น เป็นดอกไม้ที่ชอบอากาศอุ่น ไม่อดทนรอคอยที่จะแตกตัวออกจากฝัก ใจร้อนชอบดีดตัวเองออกมาโดยเร็ว แถมดีดไปได้ไกลจากต้นแม่ถึงยี่สิบฟุต พูดง่าย ๆ ว่าไม่ใช่ลูกไม้ใต้เงาแม่นั่นเอง
จริง ๆ คำว่า “ไม่อดทน” นั้น ถ้าแปลอย่างตรงไปตรงมาตามพฤติกรรมที่เห็น ก็น่าจะแปลได้ว่า “เลือกเอง” ชอบอะไรก็เลือกสิ่งนั้น เห็นว่าอะไรดีกับชีวิตก็เลือกสิ่งนั้น ไม่ชอบอากาศเย็นก็ไม่เลือกอากาศเย็น ชอบอากาศอุ่นก็เลือกอากาศอุ่น นั่นก็น่าจะถือเป็นคำแปลที่ซื่อสัตย์ที่สุดแล้วต่อคำว่า “ไม่อดทน”
ก็ถ้าชีวิตนี้มันคือของเราจริงๆ ทำไมเราต้องอ้อมค้อมอดทนกับสิ่งที่เราเองไม่ได้เลือก ไม่อยากเลือก ไม่มีวันเลือก! – ทำไมต้องทน? คำถามเรียบง่ายที่มีแต่ความเป็นเด็กเท่านั้นที่รู้ว่า – ถามได้และควรถาม
เมื่อความไม่อดทนหมายถึงการเลือกเองเป็น แม้วงศาคณาญาติร่วมสกุลกว่าพันชีวิตต่างแห่โตตามกันไปเป็นดอกไม้ผู้ใหญ่ดาษดื่น แต่ Dancing girls กลับเลือกไม่เหมือนใคร เธอเลือกที่จะโตขึ้นไปเป็นดอกไม้เด็กและเต้นระบำ เธอยืนยันทางเลือกของตัวเองเสมอมาด้วยความเป็นดอกไม้ rare item ที่ไม่ยอมให้ชีวิตถูกจัดอยู่ในริ้วขบวนระเบียบที่เธอไม่ได้เลือก
โลกของดอกไม้ไม่บังคับหรือตัดสินชีวิตใคร ภาพสวนดอกไม้ที่ละลานตาไปด้วยสีสันและนานาพรรณของสมาชิกดอกไม้ในสวนเดียวกัน คือคำบอกเล่าที่สมบูรณ์ในตัวของมันเอง
ชีวิตใคร ใครก็ควรเด็กพอที่จะเลือกเองได้
ศิริจินดา