แม้ ‘ดอกดาวกระจาย’ ในสกุล Cosmos (คอสมอส) จะมีถินกําเนิดเดิมอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งแต่ภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา ไล่ยาวตามเทือกเขา ไปจนถึงเม็กซิโก แต่ด้วยการเผยแพร่พร้อมกับเส้นทางการค้าก่อนยุคออกล่าอาณานิคม ทําให้ (ดาว) กระจายอิทธิพลจนแทบทั่วโลก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ชนชาติผู้นิยมผลิตคิดค้นสายพันธุ์ใหม่ ๆ ของดอกดาวกระจายมาแต่ครั้งสมัย เอโดะ ถึงกับเอ่ยเปรียบเปรยดอกดาวกระจายว่า “ช่างเหมือนกับเด็กสาว บริสุทธิ์ไร้เดียงสา”
อาจเพราะดาวกระจายมีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกันกับ ‘ดอกซากุระ’ แม้ คํา ‘คอสมอส’ ซึ่งหมายถึงดอกดาวกระจาย หากเขียนเป็นตัวอักษรคันจิก็ยังแปลได้อีกอย่างว่า ‘ดอกซากุระฤดูใบไม้ร่วง’
มีวรรคทองน่าจดจําจากนิตยสาร ‘หมอชาวบ้าน’ โดย ‘เดชา ศิริภัทร’ เขียนถึงดอกดาวกระจายไว้ “…สิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับดาวกระจายก็คือ ชื่อทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย มีความหมายคล้ายคลึงกัน และแสดงถึง จินตนาการอันกว้างไกล กล่าวคือ ชื่อสกุลของดาวกระจาย (COSMOS) นั้น หมายถึงจักรวาล และดวงดาวทั้งหมดบนฟากฟ้าส่วนภาษาไทย ดาวกระจายนั้น หนังสืออักขราภิธานศรับท์ให้ความหมายไว้ว่า คือดวงดาวทั้งปวงที่ขึ้นรายเรียงกันเกลื่อนกลาด กระจายไปนั้น”
ด้วยความที่ดอกดาวกระจายเป็นดอกไม้ ‘สมบูรณ์เพศ’ คือมีทั้งเกสรตัวผู้และตัวเมียร่วมดอกเดียวกัน ดอกไม้ชนิดนี้จึงแทนสัญลักษณ์แห่งความสมบูรณ์อีกนัยหนึ่ง
ดาวกระจายเป็นพืชอบอากาศกลางแจ้ง จะร้อนแรงขนาดไหนก็ทนได้ เพราะพวกเขามีถินกําเนิดเกิดมาเช่นนั้น จึงเป็นพฤกษาซึ่งปรับตัวเข้ากับบ้านเราได้ดีอย่างยิง แถมขยายพันธุ์ง่าย เติบโตเร็วเสียจนนักเลงต้นไม้พากันพูดสนุก ๆ ว่า “แค่โปรยเมล็ดดาวกระจายไว้กลางดินโดยไม่ต้องไถพรวน เมื่อมีความชื้นโปรยมาอย่างพอเหมาะพอสม เมล็ดก็จะงอกงามแข่งกับวัชพืชต่าง ๆ ได้เอง โดยไม่ต้องดูแลช่วยเหลือ และเมื่อดาวกระจายออกดอก ติดเมล็ด และ ร่วงลงดิน ก็สามารถงอกขึ้นใหม่เองในปีต่อ ๆ ไป”
โบราณเชื่อว่า ‘ดอกดาวกระจาย’ เสริมสิริมงคลแก่คนเกิดวันอาทิตย์
RakDok