ศิลปินผู้เล่นใหญ่ และทำให้ดอกไม้มีชีวิต
เพจ Azuma Makoto ของศิลปินนักจัดดอกไม้ชาวญี่ปุ่นมีผู้ติดตามทั่วโลกมากกว่าแสนคน
สำหรับชายผู้นี้ แจกันช่างจำเจเกินไปสำหรับการชื่นชมความงามของดอกไม้ บนโต๊ะกินข้าวและในบ้านยังคับแคบเกินไปสำหรับเขา หากนักจัดดอกไม้ผู้อื่นห่อดอกไม้ด้วยกระดาษและประดับด้วยโบว์ มาโกโตะห่อดอกไม้ด้วยธรรมชาติที่กว้างใหญ่ทั้งท้องฟ้า ทะเล และ ภูเขา พร้อมตกแต่งช่อดอกไม้ด้วยแสง น้ำ และ ไฟ
ผู้คนเรียกเขาว่า นักสร้างสรรค์ Botanical Sculpture หรือ นักประติมากรรมพฤกษา ย้อนไปในวัยเยาว์ มาโกโตะเคยฝันอยากเป็นนักดนตรีร็อค แต่เมื่อโชคชะตานำพาให้มาลองทำงานที่ตลาดดอกไม้โอตะ เขากลับพบสิ่งที่หลงใหลกว่าเพลง คือ การมอบจังหวะ rock ‘n’ roll ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจให้ดอกไม้
มาโกโตะก่อตั้ง Azuma Makoto Flower Laboratory (AMKK) ร่วมกับช่างภาพชื่อ Shunsuke Shiinoki พร้อมให้นิยามบริษัทว่าเป็นแล็บ ที่ทดลองการจัดดอกไม้ในรูปแบบใหม่ พาดอกไม้ไปผจญภัยในที่ที่ทุกคนคาดไม่ถึง
หากดอกไม้อยู่ในมือมาโกโตะแล้ว ทุกสิ่งย่อมเป็นไปได้
Photo Credit: https://www.ignant.com/2018/05/29/exobiotanica-takes-flowers-to-space/
ผลงานชิ้นเอกที่ทุกคนตื่นตะลึง คือ การส่งช่อดอกไม้ไปลอยในชั้นบรรยากาศนอกโลกที่ความสูง 30,000 เมตร
คอนเซ็ปต์ คือ อยากให้โลกเป็น backdrop ให้ช่อดอกไม้ ดอกไม้ของมาโกโตะเดินทางด้วยบอลลูนจากทะเลทรายในอเมริกา
จากนั้นค่อย ๆ ลอยสูงโพ้นขึ้นจนถึงชั้นบรรยากาศที่มีโลกเป็นฉากหลัง ตลอดเวลาของการเดินทางตั้งแต่ส่งดอกไม้ขึ้นไปจนกลับมาอยู่บนผืนดินอีกครั้ง มาโกโตะเก็บชุดภาพถ่ายพร้อมบันทึกแสงและอุณหภูมิที่แต่ละความสูงในชั้นบรรยากาศ เขานิยามภาพถ่ายชุดนี้ว่าเป็นสารคดีพร้อมเปิดเว็บไซต์ Interactive ให้ทุกคนเข้าไปชมภาพดอกไม้ที่ Gallery Exobiotanica หากถูกใจก็สามารถกดสั่งซื้อรูปเหล่านั้นได้เลย
Photo Credit: https://trendland.com/azuma-makoto-plunges-bonsai-into-the-depths-of-the-sea/
นอกจากส่งดอกไม้ไปอยู่ในภาวะไร้แรงโน้มถ่วงแล้ว เขายังพาดอกไม้ดำดิ่งสู่ 1000 เมตรใต้ท้องทะเลลึกในโปรเจกต์ ‘In Bloom’ ชุดภาพถ่ายที่สื่อความเบ่งบานของดอกไม้ท่ามกลางความดันน้ำ ความมืด กระแสน้ำใต้ทะเลลึกและสัตว์น้ำใต้ทะเลที่ว่ายผ่านไป มาโกโตะมองว่าใต้ทะเลสีครึ้มที่ดูมืดหม่นสามารถขับความสดใสของดอกไม้ให้เห็นเด่นชัดยิ่งขึ้นได้ การจัดดอกไม้ของมาโกโตะไม่ใช่แค่อลังการ แต่เขาเชื่อว่าเราสามารถมองเห็นความงามในมิติใหม่ได้เมื่อจับดอกไม้ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ความงามนี้ไม่ใช่ความงามที่แน่นิ่ง ไม่ใช่แค่ภาพถ่ายสุดท้ายเมื่อดอกไม้ลอยอยู่ ณ จุดสูงสุดที่มองเห็นโลก แต่เป็นความงามระหว่างการเดินทาง เมื่อลมในชั้นบรรยากาศพัดกลีบดอกไม้ที่ลอยสูงขึ้นจนปลิวว่อน หรือ เมื่อแสงใต้น้ำสาดกระทบเกสรทำให้เกิดแสงและเงาทาบบนหาดทรายใต้ทะเล
Photo Credit: https://mymodernmet.com/makoto-azuma-iced-flowers/
งาน ‘Flowers in Ice’ หรือ ดอกไม้ในน้ำแข็งเป็นผลงานที่สื่อสารมุมมองเรื่องความงามอันแปรเปลี่ยนไปได้ดี
มาโกโตะจัดแสดงดอกไม้ที่ถูกจองจำในบล็อกน้ำแข็งสี่เหลี่ยมจำนวนมาก เมื่อน้ำแข็งค่อย ๆ ละลายไป ภาพที่ปรากฏ คือ ความงามละลายได้ของดอกไม้ที่แปรเปลี่ยนไปตามน้ำที่ค่อย ๆหยดละลายลงมาเหมือนใส่เอฟเฟกต์ภาพเบลอ
Photo Credit: https://www.freundevonfreunden.com/journal/artist-azuma-makoto-creates-a-floral-inferno-deep-inside-a-cave/
ส่วนผลงานที่ตรงข้ามกันอย่าง ‘Burning Flowers’ คือ การจัดดอกไม้โทนร้อน 2000 ดอกทั้งดอกรักเร่ ดอกดึง และ ดอกหงอนไก่ไทย รวมเป็นช่อขนาดใหญ่ 3 เมตรในถ้ำโทจิงิที่ญี่ปุ่น แล้วเผาไฟ เพื่อให้เกิดการแสดงของแสงไฟที่ขับสีสันของดอกไม้และเกิดประกายไฟสวยงาม
งานของมาโกโตะ ไม่ใช่แค่เล่นใหญ่ แต่ทำให้ดอกไม้มีชีวิต สำหรับเขาดอกไม้เหมือนพลังงาน สิ่งมีชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอด เมื่อตัดรากของดอกไม้ดอกหนึ่ง ไม่เพียงแค่ดอกไม้ดอกนั้นจะไม่โตต่อไปแต่จะค่อย ๆ เหี่ยวเฉาลงตามกาลเวลา
มาโกโตะรู้สึกมีเกียรติที่ได้มอบช่วงเวลาสวยงามในวาระสุดท้ายให้ดอกไม้เหล่านั้น ได้เฉิดฉาย เขาอยากให้ผู้คนได้ซาบซึ้ง การเติบโตและเหี่ยวเฉาอันเป็นความสวยงามที่เป็นธรรมชาติของชีวิตผ่านดอกไม้เหมือนกับเขา
Photo Credit: https://sankooblog.wordpress.com/2017/06/28/azuma-makoto/
‘Back to the Earth’ เป็นอีกหนึ่งผลงานที่สื่อสารแนวคิดเรื่องวงจรชีวิตและธรรมชาติได้ดี มาโกโตะนำดอกไม้สีสันสดใส 10,000 ดอกทั้งทานตะวัน กุหลาบ ไวโอเล็ต มาจัดเรียงเป็นวงกลมท่ามกลางทุ่งหญ้า เมื่อเวลาผ่านไปดอกไม้เหล่านั้นเริ่มเหี่ยวเฉาและผสมผสานกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับทุ่งหญ้า กลับไปสู่การเป็นหนึ่งเดียวกับโลกไม่เหลือการจัดแสดงอะไรเกิดขึ้น การทำประติมากรรมดอกไม้เหล่านี้ ทำให้มาโกโตะได้ทดลองสำรวจความสวยงามของดอกไม้จากแง่มุมใหม่ และนำแรงบันดาลใจเหล่านั้นกลับมาส่งต่อทำช่อดอกไม้ให้ลูกค้า ร้าน JARDINS des FLEURS ของมาโกโตะเป็นร้านดอกไม้ในชั้นใต้ดิน แตกต่างจากร้านดอกไม้อื่นๆ ที่มักเป็นร้านกระจกใส ซึ่งหวังให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมามองเห็นความสวยสะพรั่งของดอกไม้ในร้าน
ตามทฤษฎีของมาโกโตะ พืชพรรณและดอกไม้ก็เหมือนกับไวน์ ดอกไม้จะถูกเก็บรักษาได้ดีที่สุดเมื่อเก็บไว้ในอุณหภูมิและความชื้นเหมาะสมอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี เขาจึงต้องจัดสถานที่เหมาะสมที่สุดเพื่อเก็บรักษาดอกไม้
ด้วยความที่ร้านดอกไม้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียวแถบอาโอยามะ ซึ่งเป็นย่านที่เต็มไปด้วยร้านค้าทันสมัย มาโกโตะบอกว่าการอยู่ในเมืองใหญ่ทำให้ยิ่งมีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานที่แตกต่างจากบรรยากาศในเมือง หากอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่มีภูเขากับป่า เขาคงรู้สึกเต็มอิ่มกับธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ตรงหน้าจนไม่สามารถสร้างสรรค์งานที่น่าตรึงตราใจขึ้นมาได้
สำหรับมาโกโตะ เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประติมากรรมอันสร้างสรรค์ของเขาจะทำให้ผู้คนเห็นความสวยงามของธรรมชาติมากขึ้น เพียงแค่หันมามองหรือให้ความสนใจก็อาจทำให้เกิดความรักและอยากดูแลโลกใบนี้ต่อไป
เพราะประติมากรรมอันสวยงามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่ในธรรมชาติ
อ้างอิง
https://www.ignant.com/2018/05/29/exobiotanica-takes-flowers-to-space/
https://trendland.com/azuma-makoto-plunges-bonsai-into-the-depths-of-the-sea/
https://mymodernmet.com/makoto-azuma-iced-flowers/
https://www.freundevonfreunden.com/journal/artist-azuma-makoto
https://sankooblog.wordpress.com/2017/06/28/azuma-makoto/
https://www.designboom.com/tag/azuma-makoto/
https://www.designboom.com/art/azuma-makoto
รตา มนตรีวัต