บานชื่น
History
เรื่องเล่าปรัมปราของชาวเกาหลี - คืนเดือนมืดเดือนตุลาคม (๑๐) ของทุกสี่ปี จะเป็นช่วงเวลาน่าตื่นตระหนกสำหรับชาวเกาะโพ้นทะเล เพราะจำต้องมีหญิงพรหมจรรย์สังเวยชีวิตที่หน้าผาแดง เพื่อเป็นบรรณาการปีศาจแห่งท้องทะเล และในอีกหนึ่งปีข้างหน้าซึ่งกำลังมาถึง สาวน้อยผู้ถูกเลือกตกอยู่ในความเศร้าโศกเหลือประมาณ เพราะรู้ตัวดีว่ากำลังจะจากคนในครอบครัวไปตลอดกาล
ชายหนุ่มผู้หลงรักเธอจึงอาสาออกเรือเพื่อไปสังหารปีศาจตนนั้น โดยมีข้อแม้ว่าหากเขารอดชีวิตกลับมา จะชักใบเรือสีขาวขึ้นเป็นสัญลักษณ์ให้เห็นโดยหวังจะได้ครองรักกัน
วันแล้ววันเล่าหญิงสาวนั่งเฝ้ารอชายคนรักตรงริมขอบผาแดง - หุบผามรณะ จนความหวังเธอริบหรี่ลงๆ ทุกที กระทั่งแสงแรกของเช้าวันที่ล่วงเข้าเดือนสิบ ณ ตรงปลายเส้นขอบฟ้าก็ปรากฏเรือลำเล็ก กางใบต้านลมแล่นฉิวมุ่งตรงเข้าสู่ปากอ่าว - เสียดายที่ใบเรือเป็นสีแดงฉาน!
หญิงสาวตัดใจปลิดชีพตนด้วยการกระโดดสู่ท้องทะเลเวิ้งว้างและโขดหินเบื้องล่าง โดยหารู้ไม่ว่าใบเรือถูกชโลมด้วยโลหิตของปีศาจจนชุ่ม ด้วยฝีมือและพลังรักอันแรงกล้าของชายหนุ่ม
ปีศาจตาย - หญิงสาวคนรักก็จากไป
เหลือปรากฏเพียงดอกไม้กลีบซ้อนสีแดงสด ผุดขึ้นพร้อมเพรียงกันเป็นดงริมหน้าผา เบิกบานอยู่เช่นนั้นเป็นเวลาหนึ่งร้อยวันจึงโรยรา ชาวบ้านจึงเรียกดอกไม้นั้นตามชื่อหญิงสาวว่า 'เปียงอิลโช' (백일초) หรือ 'ดอกบานชื่น' เป็นสัญลักษณ์แทนความซื่อสัตย์ตลอดกาล
Anecdote
ดอกบานชื่นสามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่โล่งแจ้ง เป็นพืชชอบ แสงแดด สามารถปลูกได้ทุกฤดูกาล ทนต่อทุกสภาพได้ดี ชอบดินร่วนปนทราย และมีอินทรีย์วัตถุสูง ชอบความชื่นแต่ไม่แฉะ หรือน้ำขัง จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะปลูกในบ้านเรา ประกอบกับความเชื่อว่าเป็นพันธุ์ไม้มงคลซึ่งนำความร่มเย็นเป็น สุขแก่ครอบครัว เนื่องจากคำว่า ‘บานชื่น’ แสดงถึงความเบิกบาน มีความสุข
บานชื่นมีสีสันสวยงามมากมายหลายหลาก แดง ชมพู ส้ม ม่วง และบานทนทานนาน ไม่เหี่ยวเฉาง่าย จึงเป็น พรรณพฤกษายอดนิยมอีกชนิดหนึ่ง