คาร์เนชั่น
Meaning
Pure love and celebration
‘ความรักที่บริสุทธิ์ใจ ความชื่นชมยินดี และการเฉลิมฉลอง’
หากเอ่ยถึงดอกไม้ที่มีลักษณะชวนให้สดชื่นและมีชีวิตชีวาเมื่อได้มอง รวมถึงยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ในแทบจะทุกโอกาส ดอกคาร์เนชั่นคือดอกที่หลายคนน่าจะนึกถึง ด้วยกลีบดอกที่หยักหยิกให้ความรู้สึกนุ่มฟูและสีสันที่หลากหลาย ทำให้คาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ที่เหมาะสมกับการใช้งานในเกือบทุกวาระ อีกทั้งมีคุณสมบัติที่ค่อนข้างทนทาน ผู้คนจึงมีการนำคาร์เนชั่นมาใช้ในงานเฉลิมฉลองที่ต้องการชีวิตชีวาหรือความสดใส นอกจากนั้น ยังมักนำไปใช้ในการแสดงความรักอย่างบริสุทธิ์ใจ หรือการแสดงความชื่นชมยินดี คาร์เนชั่นแต่ละสีล้วนมีความหมายเฉพาะตัวที่หลากหลาย จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับกาลเทศะที่ต้องการ
ดอกคาร์เนชั่นสีแดง แสดงถึงความรักอย่างลึกซึ้งและบริสุทธิ์ใจ ความหลงใหล ความโชคดี ความปรารถนาดี
ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู เป็นตัวแทนถึงความรักที่กำลังผลิบานสดใส และยังหมายถึงความรักที่จริงใจลึกซึ้งดุจความรักของแม่
ดอกคาร์เนชั่นสีเหลือง แม้จะแลดูแล้วสดชื่นตา แต่คาร์เนชั่นสีนี้กลับหมายถึงความผิดหวัง การดูถูกเหยียดหยาม การปฏิเสธ และความทรนงตน
ดอกคาร์เนชั่นสีขาว หมายถึงความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ความศรัทธา ความอ่อนโยน และการชื่นชมยินดี
ดอกคาร์เนชั่นสีม่วง นอกจากจะเป็นสีที่สวยแปลกตาและเห็นได้ไม่บ่อยนัก สีนี้ยังแสดงถึงความความเอาแต่ใจ ความไม่แน่นอน การเปลี่ยนแปลง หรือความเป็นปรปักษ์
ดอกคาร์เนชั่นสีเขียว หมายถึงสุขภาพที่ดี ความแข็งแรง และความมีเอกลักษณ์เป็นตัวของตัวเอง
ดอกคาร์เนชั่นสีส้ม แสดงถึงความสุข ความอบอุ่น ความกระตือรือร้น ความคิดที่สร้างสรรค์ การเปลี่ยนแปลง ความมุ่งมั่น และอิสรภาพ
ดอกคาร์เนชั่นสีน้ำเงิน เป็นสีที่แสดงถึงความสุขสงบ ความจริง จิตวิญญาณ รักแท้ และความจงรักภักดีระหว่างคู่รัก
ดอกคาร์เนชั่นสีลาย มักหมายถึงการแสดงความเสียใจหรือการปฏิเสธ
Carnations and other stories
เรื่องอยากบอกของ ‘ดอกคาร์เนชั่น’
ดอกจากเป็นไม้ประดับ คาร์เนชั่นยังถูกนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นอีกหลากหลาย เช่น ชาดอกคาร์เนชั่น มีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการอ่อนเพลีย ลดความเครียด และแก้ปัญหาความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง น้ำมันดอกคาร์เนชั่นยังมีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการระคายเคืองที่ผิวหนังและช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ส่วนชาวอเมริกันมักนำไปใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง และชาวอินเดียนโบราณหรือชาวแอซเท็กยังใช้ดอกคาร์เนชั่นในการขับปัสสาวะและบรรเทาอาการคัดจมูกอีกด้วย
History
คาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ที่เก่าแก่และมีประวัติมายาวนาน เชื่อว่าถือกำเนิดขึ้นมาแล้วร่วม 2,000 ปี มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบทวีปยูเรเชียและเมดิเตอเรเนียน โดยมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ชื่อ Dianthus แปลความได้ว่า ‘ดอกไม้แห่งพระเจ้า’ มีรากศัพท์มาจากคำว่า Dios ซึ่งแปลว่าเทพเจ้า และ Anthos แปลว่าดอกไม้ในภาษากรีก เชื่อกันว่าชื่อเรียก Carnation มีที่มาหลังจากชาวกรีกนำดอกคาร์เนชั่นมาร้อยเป็นพวงมาลัยหรือพวงมาลาซึ่งเรียกกันว่า Corone ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนารวมถึงในพิธีราชาภิเษกหรือ Coronation ว่ากันว่าในยุคแรกๆ ดอกคาร์เนชั่นส่วนใหญ่จะมีสีชมพูอ่อนและสีพีชเป็นหลัก ก่อนมีสีอีกมากมายเกิดขึ้นตามมาในภายหลังจากการผสม ซึ่งเป็นที่มาของบางทฤษฎีที่กล่าวว่า ชื่อ Carnation มีที่มาจากคำว่า Canis ซึ่งแปลว่าเนื้อในภาษาละติน เพราะดอกคาร์เนชันมีสีซึ่งมองดูเหมือนสีของผิวเนื้อคน
Culture
ดอกคาร์เนชั่นสีชมพูและแดงเป็นดอกไม้ประจำวัน Parents Day (วันพ่อแม่ผู้ปกครอง) ของชาวเกาหลี และถูกใช้เป็นเครื่องมือทำนายอนาคตของเด็กผู้หญิงชาวเกาหลีด้วย โดยหมอดูจะเหน็บดอกคาร์เนชั่นสามดอกไว้บนศีรษะของเด็กหญิง และดูตำแหน่งของดอกที่เหี่ยวเฉาลงก่อนและทำนายเรื่องราวจากตำแหน่งของดอกไม้ดอกนั้น ในประเทศจีน ดอกคาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ยอดนิยมที่พบเห็นได้มากที่สุดในงานแต่งงาน ส่วนในญี่ปุ่น คาร์เนชั่นก็ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ในสมัยวิกตอเรียน ดอกคาร์เนชั่นถูกนำมาใช้สื่อข้อความลับถึงบรรดาชู้รักทั้งหลาย ดอกคาร์เนชั่นสีเข้มหมายความว่า ‘ใช่’ ดอกซึ่งมีลวดลายจะแทนข้อความว่า ‘ขอโทษที ฉันอยู่กับเธอไม่ได้’ ส่วนดอกสีเหลืองใช้แทนความหมายของการปฏิเสธ ส่วนในประเทศฝรั่งเศสใช้คาร์เนชั่นสีม่วงเป็นดอกไม้ประจำงานศพ นอกจากนั้น ดอกคาร์เนชั่นยังนับเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศสเปน สโลเวเนีย และโมนาโค หากสำหรับจักรวรรดิออตโตมัน ดอกคาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มักปรากฏในจิตรกรรมฝาผนังของมัสยิดในตุรกี เนื่องจากเชื่อกันว่าดอกไม้ชนิดนี้เปรียบเหมือนตัวแทนขององค์มูฮัมหมัด
Anecdote
นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นดอกไม้ประจำเดือนมกราคมแล้ว หลายประเทศยังใช้ดอกคาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ประจำวันแม่ เนื่องจากบางตำนานเชื่อว่าเมื่อคราวองค์พระเยซูโดนตอกตรึงกับกางเขน และโดนบังคับให้เดินตระเวนไปในลักษณะอันแสนโหดร้ายนั้น พระแม่มารีเกิดความเศร้าโศกเสียใจจนร้องไห้ออกมา และเมื่อหยาดน้ำตาของพระองค์ตกลงบนผืนดิน จึงเกิดเป็นดอกคาร์เนชั่นขึ้นเป็นครั้งแรก หากในความจริงแล้ว ดอกคาร์เนชั่นได้รับเลือกให้เป็นดอกไม้ประจำวันแม่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1907 โดย Anna Jarvis ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งวันแม่ขึ้นในสหรัฐอเมริกา เลือกใช้ดอกคาร์เนชั่นเป็นตัวแทนของวันสำคัญนี้เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่แม่ของเธอโปรดปรานที่สุด นอกจากนั้น ดอกคาร์เนชั่นยังเป็นดอกไม้ประจำรัฐโอไฮโอในอเมริกาอีกด้วย
Basic Facts
Reference
https://www.arenaflowers.co.in/blog/the-meaning-of-carnations/
https://www.flowermeaning.com/carnation-flower-meaning/
https://www.hgtv.com/outdoors/flowers-and-plants/flowers/carnation-flower-meaning
https://www.giftalove.com/blog/carnation-flowers-meaning-symbolism-history-colors/
https://www.floraqueen.com/blog/what-do-carnations-mean
https://en.wikipedia.org/wiki/Dianthus_caryophyllus