ไม่น่าเชื่อเลยสินะว่ามนุษย์กับต้นไม้จะใช้ตู้กับข้าวร่วมกันได้
เมื่อ Covid-19 ทำให้กระแสการปลูกต้นไม้มาแรงชนิดที่ใครก็ยั้งไม่อยู่ จะเพราะทุกคนมีเวลาหยุดกันยาวๆ เลยอยากบำบัดจิตใจด้วยการเสพสีเขียวของไม้ดอกไม้ใบให้อารมณ์สดชื่น หรือเป็นเพราะผู้คนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการปลูกผักผลไม้ปลอดสารพิษที่กินได้แบบไม่ต้องกังวลมากขึ้นก็ตาม แต่ทั้งหมดก็ทำให้เรามีธรรมชาติสีเขียวใกล้ตัวเพิ่มมากขึ้น และเมื่อคนเรายังต้องกินเพื่อเสริมสร้างร่างกาย แน่นอนว่าต้นไม้ก็เช่นกัน
วันนี้เราเลยอยากชวนคุณมาปรุงเมนูเด็ดให้ต้นไม้จากวัตถุดิบที่หลายคนมีติดบ้านไว้เป็นประจำ เข้าครัวคราวหน้า คุณจะได้มองหาเมนูอร่อยสำหรับคนและต้นไม้ไปพร้อมกันเลย ไม่น่าเชื่อเลยสินะว่ามนุษย์กับต้นไม้จะใช้ตู้กับข้าวร่วมกันได้
กากกาแฟ
นอกจากกลิ่นและรสจะช่วยปลุกความสดชื่นในตัวเราได้แล้ว กากกาแฟยังอุดมไปด้วยไนโตรเจนซึ่งเป็นหนึ่งในแร่ธาตุจำเป็นที่พืชต้องการ และยังมีค่าความเป็นกรดบางๆ ซึ่งเหมาะกับการปลูกไม้เมืองหนาวไม่ว่าจะเป็นแครอทหรือมะเขือเทศ รวมถึงไม้ดอกทั้งหลายโดยเฉพาะกุหลาบ และหากคุณทำปุ๋ยหมักไว้ใช้เอง การผสมกากกาแฟเข้าไปยังจะช่วยเร่งให้ โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, สังกะสี และแมกนีเซียมในปุ๋ยมีความเข้มข้นขึ้น หรือถ้าไม่อยากวุ่นวาย แค่โรยกากกาแฟลงไปบางๆ ก็ยังเป็นการช่วยรักษาความชื้นในดิน รวมถึงยังช่วยไล่แมลงและสัตว์เลี้ยงไม่ให้เข้ามายุ่งกับต้นไม้ ข้อสำคัญคืออย่าใช้กากกาแฟในปริมาณมากเกินไป เพราะจะทำให้ดินเป็นกรดและกลายเป็นผลร้ายต่อพืชพรรณของคุณแทน
เปลือกถั่ว
นอกจากวอลนัทแล้ว เปลือกถั่วเกือบทุกชนิดมีประสิทธิภาพในการเพิ่มไนโตรเจนให้กับดินซึ่งเป็นสิ่งที่พืชต้องการ รวมถึงยังช่วยบำรุงรากต้นไม้ให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะเปลือกถั่วลิสงซึ่งหาง่ายมากในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้น การโรยเปลือกถั่วลงไปยังช่วยรักษาความชื้นบนหน้าดินไม่ให้ระเหยอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญคือต้องล้างเปลือกถั่วให้สะอาดก่อนนำมาใช้งาน เพื่อป้องกันสิ่งตกค้างอย่างเกลือที่อาจติดอยู่ตามเปลือกถั่วซึ่งจะทำให้ดินเค็ม ไม่งั้นจะกลายเป็นการหวังดีประสงค์ร้ายต่อต้นไม้ของคุณแทน
น้ำซาวข้าว
นอกจากจะใช้ล้างผักผลไม้เพื่อขจัดสารพิษและสิ่งตกค้างได้แล้ว น้ำซาวข้าวยังเป็นหนึ่งในยาโด๊ปอย่างดี เพราะในเมล็ดข้าวมีประโยชน์มากเท่าไหร่ ในน้ำซาวข้าวก็มีประโยชน์ไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรตหรือวิตามินหลายชนิด คุณจะใช้น้ำซาวข้าวรดต้นไม้แทนน้ำเปล่าปกติก็ได้ หรือถ้าใครอยากแอดวานซ์ขึ้นไปอีกแนะนำให้ลองผสมน้ำตาลทรายแดงลงไป ในอัตราส่วนคร่าวๆ อย่างน้ำซาวข้าว 1 ลิตร ต่อน้ำตาลประมาณ 3 – 4 ช้อนโต๊ะ เก็บไว้ในที่ร่มไม่โดนแดดซัก 7 วัน โดยหมั่นเปิดฝาให้แก๊สในขวดระบายบ่อยๆ นำน้ำซาวข้าวที่หมักแล้วปริมาณนิดหน่อยไปผสมน้ำเปล่ารดต้นไม้ ก็จะได้ปุ๋ยจุลินทรีย์น้ำซาวข้าวแบบง่ายๆ ใช้แล้วละ
เปลือกไข่
มั่นใจว่านี่คือหนึ่งวัตถุดิบที่มีทุกบ้าน แทนที่จะทิ้งขว้างไปอย่างน่าเสียดาย แนะนำให้เก็บเปลือกไข่เอาไว้บำรุงต้นไม้ดีกว่า เพราะนี่คือแร่ธาตุเกรดเอ เนื่องจากในเปลือกไข่มีแคลเซียม ไนโตรเจน และแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยให้พืชเจริญเติบโตแข็งแรง วิธีใช้งานก็แสนง่าย แค่นำเปลือกไข่ไปตากแดดให้แห้ง จากนั้นนำมาปั่น บด หรือตำให้แหลกละเอียด แล้วนำไปโรยต้นไม้ ก็จะได้ปุ๋ยฟรีแบบไม่ต้องซื้อหา แต่ทันทีที่เพิ่มความร้อนเข้าไป เปลือกไข่จะผลิตสารกำมะถันออกมา แค่คุณนำเปลือกไข่ไปคั่วในกระทะจนร้อนและแห้ง นำมาบดแล้วโรยต้นไม้ คราวนี้ก็จะได้ทั้งปุ๋ยและยาป้องกันแมลงไปด้วยในการใช้งานแค่ครั้งเดียว
เปลือกกล้วย
กล้วยคือต้นไม้สารพัดประโยชน์ซึ่งใช้ได้ทุกส่วนชนิดที่แทบจะไม่มีอะไรเหลือทิ้งให้รกโลก แม้กระทั่งเปลือกกล้วยที่หลายคนยังนึกไม่ออกว่าจะเป็นอะไรได้นอกจากขยะ แท้จริงแล้วยังสามารถจะนำมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ได้ เพราะในเปลือกกล้วยนั้นมีแร่ธาตุหลากหลายไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ซัลเฟอร์ รวมถึงโซเดียม วิธีใช้ก็ไม่ยากแถมมีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่การหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วโรยลงบนดินที่ปลูกพืชเอาไว้ ฝังลงไปในดินรอให้ดูดซึมเป็นปุ๋ยตามธรรมชาติ หรือจะโยนลงถังสำหรับหมักเพื่อให้เกิดการย่อยสลาย โดยอาจผสมกากกาแฟ เศษผัก หรือเปลือกไข่ลงไปด้วยก็ได้ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของแร่ธาตุ ซึ่งอาจจะทำให้เมนูอาหารสำหรับพืชของคุณกลมกล่อมกว่าที่เคย
ยังมีวัตถุดิบในครัวที่นำมาใช้บำรุงต้นไม้แบบเซอร์ไพรส์และไม่น่าเชื่ออีกหลายอย่าง ที่เราเอามาฝากกันครั้งนี้ถือว่าเป็นแค่ออเดิร์ฟเท่านั้น เชื่อว่าทั้งหมดเป็นของเหลือใช้ที่หาง่ายและหลายบ้านต้องมีติดครัวกันไว้อยู่แล้วอย่างแน่นอน แล้วเอาไว้ครั้งหน้าเราจะหาสูตรอร่อยทั้งของคนและพืชมาฝากกันใหม่ เตรียมเปิดครัวเช็คของรอกันเอาไว้ได้เลย
Sudsaijai