กุหลาบมอญ
Meaning
เมื่อมีชื่อห้อยท้าย 'มอญ' ย่อมไม่ใช่ดอกไม้พื้นบ้านของประเทศไทย แต่ ประวัติที่มาเจริญเติบโตในบ้านเราก็ยังคงสับสน บางตำราว่า 'สมเด็จพระ นเรศวรมหาราช' ทรงนำเข้ามาปลูกในราชอาณาจักรของพระองค์ ตั้งแต่ครั้ง ยกทัพกลับจากตีเมืองหงสาวดี (มอญ) เสร็จ บ้างก็ว่าเพิ่งนำเข้ามาปลูกกัน ตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ หรือราวรัชกาลที่ ๒ นี้เอง
ปัจจุบันดอกกุหลาบมอญ หรือ Damask Rose (ดามาสก์ โรส) คือหนึ่ง ในพืชตระกูลกุหลาบมากกว่า ๑,๐๐๐ สายพันธุ์ มีสถานะประดุจ 'ราชินีแห่ง วงการเครื่องสำอาง' ของโลก เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ซึ่งสามารถสกัดกลิ่น หอมธรรมชาติอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย มิหนำซ้ำยังค้นพบแร่ธาตุ วิตามิน ฯลฯ อันเป็นประโยชน์ (ทางการค้า) ต่อมนุษย์มากมาย
History
กวีฝรั่งมอง 'ดอกกุหลาบมอญ' หรือ 'ยี่สุ่น' เปรียบกับความรักไว้ว่า "...คือรักแบบยั่วยวน คล้ายนายจ้างสาวสวยเที่ยวโปรยเสน่ห์ให้เหล่าบรรดาทาส ชายใต้เรือนเบี้ย เป็นความรักอันเร่าร้อนแค่เพียงโลกีย์ หาความจีรังยั่งยืนมิได้เลย"
Culture
ยุคหนึ่งของไทย 'กุหลาบมอญ' ดอกสีชมพูสด ถนอมกล่อมเลี้ยงใน กระถางเบญจรงค์ (หรือลายคราม) วางเรียงรายรอบระเบียงบ้าน ส่งกลิ่นหอม ตลบอบอวลขจรขจายทั่วอาณาบริเวณ คือ เครื่องหมายแสดง 'ความมั่งคั่ง' ของผู้เป็นเจ้าเรือนระดับ 'เศรษฐี' หรือ 'ขุนน้ำ - ขุนนาง' ทีเดียวเชียว
ด้วยดอกและเรือนต้นซึ่งค่อนข้างบอบบาง ดูแลรักษาแสนยาก กุหลาบ มอญจึงโดนค่อนแคะเปรียบเปรยเป็นเพียงของเล่นของผู้มีอันจะกิน หรือ 'ดอก (ไม้) ผู้ดี' ซึ่งน่าเชื่อว่าหลายครั้งพยางค์ในวงเล็บถูกงดออกเสียง
Anecdote
'กุหลาบมอญ' เรียกอีกชื่อว่า ‘ยี่สุ่น’ คนสมัยก่อนใช้กลีบดอกสดบดกลั่น ทำน้ำมันหอมระเหย เพื่อใช้แต่งกลิ่นยา เครื่องสำอาง หรือผสมน้ำดอกไม้เทศ ดื่มบรรเทาอาการอ่อนเพลีย และกระวนกระวาย กลีบดอกบำรุงหัวใจ ขับน้ำดี อีกทั้งดอกแห้งยังเป็นยาระบายอ่อนๆ อีกด้วย
Basic Facts
พอหันมามองความจริง ณ ปากคลองตลาด กรุงเทพฯ แหล่งค้าส่งดอก ไม้แห่งใหญ่ที่สุดของบ้านเรา ดอกกุหลาบมอญผู้ยั่วยวนกลับมีสนนราคาค่าตัว กระจิดริดเพียงสามสี่สิบบาทต่อหนึ่งร้อยดอก เป็นดอกไม้แห่งความระทม (ใจผู้ปลูก) โดยแท้